SCG ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคม Net Zero

ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย SCG มุ่งมั่น ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและพัฒนานวัตกรรมกรีน ผ่านกลยุทธ์ที่เน้นการผสานพลังเทคโนโลยี พร้อม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคม Net Zero เป้าหมายสำคัญที่เอสซีจีมุ่งมั่น

ในการประชุมสุดยอดความยั่งยืนที่จัดขึ้นโดย Economist Impact ณ กรุงเทพฯ นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม ได้เสนอ ข่าวสิ่งแวดล้อม มุมมองเกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมาย Net Zero โดยการสร้างสมดุลระหว่างการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการเติบโตทางเศรษฐกิจ การประชุมดังกล่าวเป็นเวทีสำหรับผู้นำจากทั่วโลกในการแลกเปลี่ยนความคิดและกลยุทธ์เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน การเสวนาในหัวข้อ “Achieving Net Zero: Matching Ambition with Action” ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อสร้างสังคม Net Zero ที่มีความยั่งยืนและเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

การสร้างสมดุลนี้ไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และสังคมด้วย นายธรรมศักดิ์ได้ชี้ให้เห็นว่าการลงทุนในเทคโนโลยีสะอาดและนวัตกรรม สามารถนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและการสร้างงานใหม่ๆ ได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนการพัฒนาที่ครอบคลุมและเท่าเทียมกัน ซึ่งจะช่วยให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น

ในที่สุด การประชุมได้สรุปว่าการบรรลุเป้าหมาย Net Zero จำเป็นต้องมีการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน การแบ่งปันความรู้ การสร้างความเข้าใจ และการสนับสนุนกันและกันจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นธรรมสำหรับทุกคน

พลังงานสะอาด กุญแจสู่อนาคตที่ยั่งยืนของเอสซีจี สู่เป้าหมาย Net Zero 2050 การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น

ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน การปรับเปลี่ยนสู่พลังงานสะอาดและกระบวนการผลิตที่มีการปล่อยคาร์บอนต่ำเป็นสิ่งจำเป็น นายธรรมศักดิ์ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้ในเวทีเสวนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่าง SCG ที่มีการใช้พลังงานสูง การเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 ของเอสซีจี จำเป็นต้องมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างมีนัยสำคัญ

SCG ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชัน ได้เริ่มต้นด้วยการนำเสนอปูนคาร์บอนต่ำ เจเนอเรชันแรก ที่มีส่วนผสมพิเศษพัฒนาโดยเอสซีจีเอง ซึ่งช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงร้อยละ 10 และในปีนี้ พวกเขากำลังจะเปิดตัวปูนคาร์บอนต่ำ เจเนอเรชันที่ 2 ที่สามารถลดการปล่อยได้มากขึ้นอีกร้อยละ 5 และยังมีแผนที่จะ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ต่อไปเพื่อลดการปล่อยมากขึ้นอีกในอนาคต

นายธรรมศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงความท้าทายในการเข้าถึงพลังงานสะอาดที่มีราคาที่จับต้องได้และเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเร่งกระบวนการผลิตสู่คาร์บอนต่ำ และทุกพื้นที่จะมีความต้องการและทางเลือกที่แตกต่างกันในการตอบสนองต่อความท้าทายนี้

ขับเคลื่อนอนาคตสีเขียว นวัตกรรมกรีน เส้นทางสู่สังคม Net Zero ที่ยั่งยืน

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง การปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมพลังงานที่สะอาดและยั่งยืนกลายเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ประเทศไทย ด้วยฐานะที่เป็นแหล่งผลิตผลเกษตรอันอุดมสมบูรณ์ มีโอกาสในการใช้เทคโนโลยีเพื่อแปรรูปวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร เช่น ใบอ้อย ฟางข้าว และซังข้าวโพด เป็นเชื้อเพลิงชีวมวลที่มีศักยภาพในการทดแทนพลังงานฟอสซิล นอกจากจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว ยังสามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท เอสซีจี จึงมุ่งมั่นในการขยายการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลเพื่อสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืน

การพัฒนานวัตกรรมกรีน เช่น พลาสติกชีวภาพ จากผลิตผลเกษตร ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของตลาดโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยก้าวหน้าไปสู่เศรษฐกิจที่มีความยั่งยืน และสังคม Net Zero ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น องค์กรต่างๆ ควรลงทุนและสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่จะนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน

SCG มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับประเทศในเอเชียและทั่วโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพื่อสร้างสังคม Net Zero ที่เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมกรีนที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ภายใต้แนวคิด Passion for Inclusive Green Growth ที่เอสซีจีได้นำมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงาน