“ในการต่อสู้กับ โรคไข้เลือดออก ที่เป็นอันตราย มามี่โพโค ได้เข้า ร่วมกับ กรมควบคุมโรค และ ยูนิ.ชาร์ม เพื่อเปิดตัวแคมเปญใหม่ที่มีพลัง โครงการนี้มุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างความรู้และการป้องกัน โดยเฉพาะในหมู่เยาวชนไทยที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ ด้วยการ รณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก ที่เข้มข้น เราหวังว่าจะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและสร้างภูมิคุ้มกันในชุมชนเพื่อป้องกันโรคร้ายนี้”
ในปี พ.ศ. 2566 ประเทศไทยได้เผชิญกับการระบาดของโรคไข้เลือดออกในเด็กอายุ 0-3 ปีอย่างหนัก ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่รายงานถึง 16,007 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีก่อนหน้าที่มีเพียง 1,668 ราย การเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของการระบาดที่เกิดขึ้น ในสถานการณ์นี้ มามี่โพโค ร่วมกับ กรมควบคุมโรค เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาโรคระบาดนี้ด้วยการ รณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก โดยมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มความตระหนักและความรู้ในการป้องกันโรคให้กับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
เชื้อไวรัสเดงกีที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกนี้ ถูกนำโดยยุงลายที่เป็นพาหะ และมีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายได้ง่ายในช่วงที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย ในปี 2567 ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงวันที่ 6 มีนาคม ข่าวโรคระบาด มีรายงานว่าเด็กป่วยไข้เลือดออกแล้วกว่า 700 ราย และมีเด็กเสียชีวิตถึง 2 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจเมื่อเทียบกับตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ว่าอัตราการเสียชีวิตไม่ควรเกิน 0.1 หรือเท่ากับว่าในจำนวนผู้ป่วย 1,000 คน ควรมีเพียง 1 คนเท่านั้นที่เสียชีวิต
การรณรงค์ของ มามี่โพโค ร่วมกับ กรมควบคุมโรค มุ่งเน้นไปที่การสร้างความตระหนักในหมู่คุณแม่และครอบครัว โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น บริเวณที่มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย การป้องกันที่ดีที่สุดคือการระวังไม่ให้บุตรหลานถูกยุงกัด เพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อไวรัสเดงกีนี้นั่นเอง
การป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกครอบครัวและชุมชนควรให้ความสนใจ การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายและการป้องกันไม่ให้ยุงกัดเป็นวิธีที่ได้ผลและควรปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงของการระบาดและปกป้องเด็ก ๆ จากโรคนี้ โดยการรณรงค์นี้ได้รับการสนับสนุนจาก มามี่โพโค และได้รับการช่วยเหลือจาก กรมควบคุมโรค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกในประเทศไทย
ในฐานะผู้นำของบริษัทยูนิชาร์ม คอร์ปอเรชั่น และผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและพัฒนาธุรกิจของยูนิ.ชาร์ม (ประเทศไทย) จำกัด, มร.เคนอิจิ คุมาไก ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับปี 2567 ภายใต้คำขวัญ “Love Your Possibilities!” หรือ “รักในศักยภาพของตน”
โดยเน้นย้ำถึงการมีจิตใจที่เห็นแก่ผู้อื่นและการสร้างสังคมที่ดีขึ้นผ่านการทำงานที่เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย บริษัทฯ ร่วมกับกรมควบคุมโรคและกระทรวงสาธารณสุขในการรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม CSR ในโอกาสครบรอบ 37 ปีของบริษัท
มร.คุมาไก ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการปกป้องเด็กเล็กจากโรคไข้เลือดออก ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่พบเห็นได้ทุกปีในประเทศไทย
ด้วยเหตุนี้ มามี่โพโค ซึ่งเป็นแบรนด์ผ้าอ้อมเด็กชั้นนำที่ได้รับความไว้วางใจจากคุณแม่ชาวไทยมายาวนาน ได้นำเสนอนวัตกรรมใหม่ภายใต้แนวคิด “NOLA & DOLA” หรือ “Necessity of Life with Activities & Dreams of Life with Activities” โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมกันยุงจากธรรมชาติเป็นครั้งแรก ซึ่งสามารถช่วยปกป้องเด็กเล็กจากยุงได้นานถึง 9 ชั่วโมง
ในงานเปิดตัวสินค้าล่าสุดของมามี่โพโค ครอบครัวของบีม-กวี และออย-อฏิพรณ์ ได้แบ่งปันประสบการณ์การใช้ผ้าอ้อมมามี่โพโค พวกเขาเล่าว่าตั้งแต่น้องแรกเกิดก็ได้ใช้ผ้าอ้อมจากแบรนด์นี้ และพวกเขาตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อทราบข่าวว่ามามี่โพโคได้พัฒนาผ้าอ้อมกันยุง ซึ่งมีกลิ่นตะไคร้ธรรมชาติ นวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยซึมซับได้ดี แต่ยังช่วยป้องกันยุงได้ในผ้าอ้อมเดียว ทำให้เหมาะสำหรับเด็กที่มีผิวบอบบาง โดยเฉพาะในปีนี้ที่โรคไข้เลือดออกกำลังระบาด พวกเขายืนยันว่าหลังจากที่ได้ลองใช้ผ้าอ้อมกันยุงนี้แล้ว พวกเขาไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
สินค้า “มามี่โพโค แพ้นท์ แอนติ-มอส” ได้รับความนิยมในตลาด ยูนิ.ชาร์ม ได้เริ่มวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และขยายไปยัง Lotus’s ทุกสาขาทั่วประเทศไทย ผ้าอ้อมกางเกงสำเร็จรูป “มามี่โพโค แพ้นท์ แอนติ-มอส” นำเสนอนวัตกรรมใหม่ที่ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติการซึมซับที่ดีเยี่ยม แต่ยังมาพร้อมกับกลิ่นตะไคร้ธรรมชาติที่ช่วยปกป้องเด็กจากยุง ช่วยให้คุณแม่มั่นใจได้ว่าลูกน้อยจะได้รับการปกป้องจากยุงได้นานถึง 9 ชั่วโมง ทำให้ลูกน้อยเล่นได้อย่างสนุกสนานตลอดวันและหลับสบายตลอดคืน