ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับแน่ สัญญาณบวกตลอด

ข้างหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ครอบครองตำแหน่งด้านการเมือง ลงความเห็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ยกฟ้อง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับแน่ สัญญาณบวกตลอด สมัยก่อนนายกรัฐมนตรี คดีโกงโรดโชว์สร้างอนาคตเมืองไทย ตลอดจากเดือน เดือนธันวาคม2566 ที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ รอดพ้นจากคดีเคลื่อนย้าย นายคิดถึง แปลงศรี จากเลขาธิการที่ประชุมความยั่งยืนแห่งชาติ  ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีข้างข้าราชการ โดยศาลฎีกายกฟ้องเหมือนกัน แต่ขั้นตอนการคดีโรดโชว์ สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในฐานะผู้ฟ้อง ยังมีเวลา 30 วัน รวมทั้งขอเลื่อนเวลา ได้ถ้าเกิดจะอุทธรณ์ เพราะฉะนั้นจะต้องรอคอย สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตกลงใจก่อนว่าจะอุทธรณ์ไหม

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สมัยก่อนนายกรัฐมนตรี คดีโกงโรดโชว์สร้างอนาคตเมืองไทย

แต่ว่าความเห็นยกฟ้องกินขาด 9 ต่อ 0 ไม่มีถึงแม้สักเสียงให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกล่าวถึงเหตุผลมาอุทธรณ์สู้ ประกอบกับก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ครอบครองตำแหน่งด้านการเมือง ยังไม่เคยมี “คดีกลับ” ในชั้นอุทธรณ์เกิดขึ้นเลยหากแม้สักหนึ่งครั้ง ข่าวการเมือง

ถ้าเกิด สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจะสู้ดูแล้วยากมากมาย แม้กระนั้นหากว่าถอยไม่อุทธรณ์คดีนี้ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นคนชี้มูลรวมทั้งฟ้องเอง ข้างหลังอัยการไม่ฟ้อง ข้อกังขาจะตามเยอะ โดยยิ่งไปกว่านั้นจากกองเชียร์ข้างอีลิท

ติเตียนใจปลาซิวไม่ฝ่าสุดตรอก โดนไม่มีค่าเสียชื่อเสียงหน่วยงานตรวจทานอันดับที่หนึ่ง รู้เรื่องเกี้ยเซียะดีลลับกับเขาใช่มั้ย พะอืดพะอมมองแนวโน้มบางทีอาจคลอดลูกมึน ไม่หือไม่อือรอคอยให้หมดอายุ

ข้างเชลย นางสาวยิ่งลักษณ์แล้วก็โครงข่าย กระพือปีกไม่รอคอยช้าคิดอ่านหมากบอร์ดต่อไปแล้ว ตามดีลลับกลับเมืองไทย ข้างหลังนายขวา ชินวัตร สมัยก่อนนายกรัฐมนตรีผู้พี่นำร่องไปแล้ว

สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

จับสัญญาณโครงข่ายคนสนิทบ่งชัดกลับมาแน่ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองห้วย ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย หลานในไส้ที่ได้บิดากลับมาแล้ว ชูหูยินดีกับ “อาปู” ในทันที ก่อนบอกผู้สื่อข่าว “อาปู” ต้องการกลับมาเลี้ยงหลานๆแล้ว

“รองอ้วน” ภูเขาไม่ธรรม เวชยชัย รองนายกฯรวมทั้ง รัฐมนตรีว่าการการซื้อขาย เชื่อตลอดมาว่าสมัยก่อนนายกรัฐมนตรีหญิงมิได้รับความเที่ยงธรรม โชคชะตาไม่มีความแตกต่างจากอดีตกาลนายกรัฐมนตรีขวาผู้เป็นพี่ชาย จะกลับไปอยู่ที่บ้านก็เกิดเรื่องถูกแล้ว ต้องการให้กลับมาไวๆ

คนสำคัญอย่าง พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการชอบธรรม จากค่ายประเทศชาติหากแม้เสียง สส.น้อยแต่ว่าเก้าอี้ใหญ่ เพราะเหตุใดมองเห็นกันไปแล้ว ค้ำประกันเก้าอี้เหนียวมากกว่าใช้กาวยี่ห้อช้าง

จากผลงานดูแลซัพพอร์ตจนถึงนายขวากลับไปอยู่บ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นสิ่งประกัน

รายของ “สมัยก่อนนายกรัฐมนตรีปู” อาจไม่ต่างอะไรกัน พันตำรวจเอกทวีบอกก่อนเลยถ้าเกิดจะกลับไทยแล้วก็ขอสิ่งของอภัยโทษสามารถยื่นเรื่องโดยตรงกระทรวงยุติธรรมได้ ส่วนกฎระเบียบจองจำนอกคุกคณะทำงานยังสัมมนาพินิจสม่ำเสมอ

ใส่ใจเขม้นขะมัก พอเพียงจังหวะข่าวสารคึกคักก็อาศัยลูกพัลวันชิ่งตีเนียนไปได้เรื่อยๆ โดนด่าทอไถลไปไถลมา แม้กระนั้นในที่สุดมายืนโต้ยืนซดกึ่งกลางที่ประชุมได้ไม่เก้อเขิน ในสายตานายใหญ่-นายหญิงเป็นรัฐมนตรีดีเด่น

ด้วยเหตุนี้ถามคำถามว่า ถ้าหาก “ยิ่งลักษณ์” ไม่กลับไปอยู่ที่บ้านในช่วงเวลานี้ แล้วจะกลับตอนไหน น้ำขึ้นให้รีบตัก รัฐบาลก็เพื่อไทย “นายกรัฐมนตรีนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีรวมทั้ง รัฐมนตรีว่าการคลังเก็บของ ก็เพื่อนฝูงรุ่นพี่ที่สนิทกันสุดๆ

ครั้นเมื่อชำเลืองศัตรูการบ้านการเมืองก็อยู่เรือลำเดียวกัน

เคสของพี่ชายนายขวานำร่องไว้หมดแล้ว ข้างต้านทานปวกเปียกปลุกไม่ขึ้น ยิ่งคดีของ “ยิ่งลักษณ์” ไม่มีความเอาใจใส่กำเนิดความทรุดโทรม เบาหวิวดุด่าไม่เต็มปาก นายกรัฐมนตรีคนใดกันก็ทำเสียหายทั้งหมด เนื่องจากบางหลักการขาดทุนแน่แม้กระนั้นก็จำเป็นต้องทำไป เพื่อราษฎร ชาวไร่ชาวนาได้กำไร เมืองขาดทุนงบประมาณแม้กระนั้นผลกำไรด้านอื่น ทำให้เศรษฐกิจเคลื่อนหมุนวน

พรรคเพื่อไทยเอาโมเดลนี้ไปทำแนวนโยบายประชาชนนิยม ดิจิทัลวอลเล็ตก็เหมือนกัน มันถึงเหิมใจประชาชน คนรากฐาน เบี้ยน้อยหอยน้อย แม้กระนั้นขัดใจนักเศรษฐศาสตร์ นักคิดค้นห้องเครื่องปรับอากาศชนชั้นอีลิท

ส่วนฝ่ายค้านพรรคก้าวหน้าก็มิได้พึงพอใจมาเคลื่อนโต้แย้งมากไม่น้อยเลยทีเดียวอยู่แล้ว เพราะว่าคิดว่า “เชื้อสายชินวัตร” ก็โดนคดีมาแบบไม่ยุติธรรม แล้วจะไปขยี้เพราะเหตุใด เลยดุไปตามหลักไม่คลั่ง

สารพันเหตุสนับสนุน ซ้ำเติม “ยิ่งลักษณ์” กลับไปอยู่ที่บ้านปีนี้แน่ๆ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับแน่ สัญญาณบวกตลอด

แม้กระนั้นจะกลับตอนไหน อดีตกาลแกนนำเสื้อแดง “ตุ๊ดตู่” จเหม็นตุพร พรหมพันธุ์ บอกไว้ใช่เลย จะกลับเร็วก่อนเดือน กรกฎาคม เนื่องจากว่าปีนี้เป็นปีมหามงคล อาจมีการอภัยโทษครั้งใหญ่ “ยิ่งลักษณ์” บางทีอาจได้ผลบุญ รวมทั้งอย่างนั้น “ขวา” ก็คงจะได้ด้วย

ไม่แน่ “ยิ่งลักษณ์” บางทีอาจใช้ฤกษ์ดีวันเกิดครบ 57 ปี วันที่ 21 ไม่.ย. เดินทางกลับไปอยู่ที่บ้าน

แต่ว่าด้ามจับตากันเป็นกลับมาแล้วจะจำคุกหรือเปล่า วงในกล่าวว่าใช้โมเดลพี่ชายไม่ติดแม้กระทั้งวันเดียว

เนื่องจากถ้าหากการเปรียบเทียบจะเสียหายรุนแรง “ยิ่งลักษณ์” เองก็ไม่อยากให้มีภาพติดคุก

แม้กระนั้นมันก็จะวกมายังดีลลับกลับไทย ที่มี “ยิ่งลักษณ์” อยู่ในสมการ จะถูกขึ้นราคาที่จะต้องจ่ายแพงขึ้น จากสไตล์ได้คืบเอาศอก กลับไปอยู่บ้านโก้เก๋ๆ

ข้อเรียกร้องด้านการเมืองบางทีอาจเอาจริงเอาจังกระทั่งไม่ได้นึกฝัน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับแน่ สัญญาณบวกตลอด

ทางสบาย “ปู-ยิ่งลักษณ์” กลับไปอยู่บ้าน ข้างหลังศาลฎีกายกฟ้อง “โรดโชว์” 240 ล้าน

ทางสว่างโร่เพิ่มขึ้น สำหรับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สมัยก่อน “นายกรัฐมนตรีปู” กับการเดินทางกลับประเทศเพื่อต้องโทษ ตามทางและก็แนวทางที่ นายขวา ชินวัตร สมัยก่อนนายกรัฐมนตรี และก็พี่ชาย ที่ได้ทำเป็นตัวอย่างไว้

เมื่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ครองตำแหน่งด้านการเมือง อ่านคำวินิจฉัยคดีข้อกล่าวหาปฏิบัติหรือยกเว้นการกระทำหน้าที่โดยไม่ถูกต้อง แล้วก็ใช้อิทธิพลในตำแหน่งงานโดยโกง

ตั้งใจไม่ให้มีการแข่งเสนอราคาอย่างเป็นธรรม สำหรับการจ้างโครงงาน Roadshow สร้างอนาคตเมืองไทย หรือ Thailand 2020 วงเงิน 240 ล้านบาท ที่คณะกรรมการปกป้องแล้วก็ล้มล้างการโกงแห่งชาติ (สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาวยิ่งลักษณ์ กับพวก รวม 6 ราย

และก็ นายนิวัฒน์ดำรง บุญทรงกว้างใหญ่ไพศาล อดีตกาลรักษาการนายกรัฐมนตรี นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เมื่อครั้งเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ บริษัท ความเห็นชอบชน จำกัด (มหาชน) บริษัทประเทศไทยสปอร์ต สินดิเคท จำกัด (มหาชน) นายระวิ โหลทองคำ เป็นเชลยที่ 1-6 ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ครองตำแหน่งทางด้านการเมือง

ศาลฎีกาลงความเห็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เมื่อ 4 มี.ค.2567 ชี้ขาดยกฟ้อง บอกเหตุผลว่า ไม่เจอมีเจตนาสำหรับเพื่อการเอื้อประโยชน์สำหรับในการจัดซื้อจัดจ้างในโครงงานดังที่กล่าวถึงมาแล้ว รวมทั้งมีคำบัญชาให้ล้มเลิกหมายจับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ด้วย

นับว่าเป็นคดีปัจจุบัน แล้วก็เป็นคดีความต่อจากคดีระบายข้าวแบบจีทูจี ในแผนการรับจำนองข้าว เฟสที่ 1 ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ ถูกศาลตัดสินติดตะราง 5 ปี โดยไม่คอยลงทัณฑ์ และก็ให้ออกหมายจับ

ก่อนหน้าที่ผ่านมา เมื่อ 26 เดือนธันวาคม2566 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ครอบครองตำแหน่งทางด้านการเมือง โดยเสียงส่วนใหญ่ พิพากษ์ “ยกฟ้อง” นางสาวยิ่งลักษณ์ แล้วก็ล้มเลิกหมายจับข้อกล่าวหา มาตรา 157 ในคดีเคลื่อนย้ายนายคิดถึง เปลี่ยนแปลงศรี อดีตกาลเลขาธิการ สำนักสภาความมั่นคงแห่งชาติโดยไม่ถูกต้อง ด้วยเหตุผลไม่มีเจตนาพิเศษเพื่อทำความเสียหาย หรือเอื้อประโยชน์ญาติพี่น้อง (พล.ตำบลอำเภอเพรียวลมจำพวก ดามาพงศ์พันธุ์) ไปนั่งในตำแหน่งผู้บังคับบัญชาตำรวจ

แม้กระนั้น คดีเกี่ยวกับการโยกย้ายนายคิดถึง ได้มีคำวินิจฉัยให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ แพ้มาแล้ว 2 ศาลหมายถึงศาลปกครองสูงสุดที่วิเคราะห์ว่า เป็นการแต่งเคลื่อนย้ายโดยใช้ดุลยพินิจไม่ดี ก็เลยให้ล้มเลิกประกาศแต่งเคลื่อนย้ายดังกล่าวข้างต้น

ส่วนศาลรัฐธรรมนูญ ลงความเห็นให้ความเป็นนายกฯของ นางสาวยิ่งลักษณ์ สิ้นสุดลง จากการคั่นแซงการแต่งเคลื่อนย้าย เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ญาติพี่น้อง

น่าดึงดูด เป็นคำตัดสินพิจารณาคราวนี้ ถูกมุ่งหวังจากฉันรูด้านกฎหมาย ว่าจะมีทางออก 2-3 หน้า เป็นหน้าแรกศาลบางทีอาจเลื่อนฟังคำบัญชาออกไปอีก 30 วัน เพราะเหตุว่าเชลยเดินทางมาฟังคำวินิจฉัยไม่ครบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นางสาวยิ่งลักษณ์

วิถีทางที่ 2 เป็นตัดสินมีความผิดตามฟ้อง ซึ่งวิธีแบบนี้ จำเป็นต้องลุ้นว่า ศาลจะวิเคราะห์ลงทัณฑ์ติดตะรางกี่ปี ถ้าเกิดไม่เกิน 3 ปี จะมีผลให้มีโทษติดตะรางที่จะต้องไปรวมกับคดีระบายข้าวจีทูจี ซึ่งโดนอยู่ก่อนแล้ว 5 ปี รวมกันไม่เกิน 8 ปี พอๆกับหรือน้อยกว่าโทษนายขวา ชินวัตร อดีตกาลนายกรัฐมนตรีโดน 8 ปี ก่อนที่จะได้รับพระราชทานยกโทษลดโทษเหลือ 1 ปี

แล้วก็ทางในที่สุด เป็นยืนตามศาลชั้นต้น แล้วก็ห้องประชุมใหญ่ศาลฎีกา ที่มีคำบัญชาไม่ประทับรับฟ้องก่อนหน้าที่ผ่านมา ซึ่งจะมีผลให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ พ้นผิดจากคดีนี้โดยทันที แล้วก็นับว่าเป็นผลจากการบวกเป็นอย่างมาก ต่อการเดินทางกลับเมืองไทยของ นางสาวยิ่งลักษณ์ เอาอย่างนายขวา ที่ได้ทำเอาไว้

ตั้งเวลาบางทีอาจเร็วกว่าที่คาดไว้ ไม่น่านานเกินรอคอย หากแม้ สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติยังสามารถขออุทธรณ์คำวินิจฉัยของศาลได้

แม้กระนั้นเป็นทางสบายและก็แจ่มใสเป็นอย่างมาก สำหรับเพื่อการเดินทางกลับเมืองไทยของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ที่เช้าใจกันว่า คงจะมีการพูดจาตกลงกับกรุ๊ปอำนาจเดิมไว้แล้วล่วงหน้า