วันเสาร์, เมษายน 27, 2024
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้
หน้าแรกโรคระบาดฝุ่น PM 2.5 กลับมาอีกแล้ว! ส่องผลกระทบต่อสุขภาพ และวิธีป้องกันตัว

ฝุ่น PM 2.5 กลับมาอีกแล้ว! ส่องผลกระทบต่อสุขภาพ และวิธีป้องกันตัว

เช้านี้ไปโรงพยาบาลตั้งแต่ตีห้าครึ่ง มองไปรอบๆ เห็นฝุ่นละอองเยอะ คงคล้ายๆ ปีก่อนที่ฝุ่นเยอะติดต่อกันหลายเดือน คงต้องใส่หน้ากากทุกครั้งเวลาออกจากบ้านเพื่อป้องกัน ฝุ่น PM 2.5

จากโพสต์เฟซบุ๊กของ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (“Thira Wora tanarat (ป๊ามี้คีน)”) พาเรานั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่ท่านพานิสิตแพทย์ไปเยี่ยมชมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในจังหวัดชลบุรี

การเดินทางครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการเยี่ยมเยียนธรรมดา แต่เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกแห่งการเรียนรู้ระบบสาธารณสุขไทย นิสิตแพทย์ได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์จริง พบปะพูดคุยกับบุคลากรทางการแพทย์ และเรียนรู้วิธีการทำงานของ รพ.สต.

ประเด็นสำคัญ ที่น่าสนใจคือ รพ.สต.ทั้งหมดในชลบุรีได้โอนย้ายไปสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กระทรวงมหาดไทยแล้ว การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ นำมาซึ่งคำถามมากมายเกี่ยวกับอนาคตของระบบสาธารณสุขไทย

ในยุคสมัยที่สังคมไทยเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บทบาทของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน หน่วยงานเหล่านี้ไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง แต่ต้องประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น

“เมื่ออากาศที่เราหายใจเป็นพิษ สัญญาณเตือนจาก PM2.5”

การศึกษาทั่วโลกได้เปิดเผยว่า อนุภาคของ ฝุ่น PM 2.5 มีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพของมนุษย์ โดยเฉพาะในเรื่องของโรคมะเร็งปอด ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่สามารถเกิดจากการสูดดมอนุภาคเหล่านี้เข้าไปในร่างกาย นอกจากนี้ อนุภาค PM 2.5 ยังเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคหอบหืด และการอักเสบของหลอดลมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถนำไปสู่การเสื่อมสภาพของระบบทางเดินหายใจได้

การสัมผัสกับ PM2.5 ในระยะยาวยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคทางหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคไตเสื่อม ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ การเข้าใจถึงผลกระทบเหล่านี้ช่วยให้เราตระหนักถึงความจำเป็นในการควบคุมและลดระดับของ PM 2.5 ในอากาศที่เราหายใจเข้าไปทุกวัน

ฝุ่น PM 2.5

ฝุ่นละออง PM2.5 ภัยร้ายที่มองไม่เห็น

ฝุ่น PM2.5 กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อสุขภาพของผู้คนทั่วโลก อันตรายจากฝุ่นละอองเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจเท่านั้น แต่ยังส่งผลร้ายแรงต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย

ผลกระทบต่อสุขภาพ

  • เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง: โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอด โรคมะเร็ง
  • ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ: ไอ จาม หายใจลำบาก หอบหืด
  • ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน: ภูมิแพ้
  • ส่งผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: ความดันโลหิตสูง หัวใจวาย
  • ส่งผลต่อทารกในครรภ์: น้ำหนักตัวน้อย ภาวะครรภ์เป็นพิษ

แนวทางการป้องกัน

  • ติดตามสถานการณ์: ตรวจสอบค่าฝุ่นละอองในพื้นที่
  • ลดการสัมผัสฝุ่น: หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัย
  • ดูแลบ้านและสถานที่ทำงาน: ติดตั้งระบบระบายอากาศ เครื่องฟอกอากาศ
  • ใส่ใจกลุ่มเสี่ยง: เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว

การแก้ปัญหาในเชิงสังคม

  • พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ: ติดตั้งระบบกรองอากาศในสถานีขนส่งใต้ดิน
  • รณรงค์ลดมลพิษ: ควบคุมควันพิษจากโรงงาน ยานพาหนะ
  • สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด: ส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม

ฝุ่น PM 2.5 เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของทุกคน การป้องกันตัวเองและร่วมกันแก้ปัญหาในเชิงสังคมเป็นสิ่งที่จำเป็น

ฝุ่น PM 2.5

โควิด-19 กลับมาเยือน สถานการณ์ในประเทศไทยและข้อควรระวัง

จำนวนผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลพุ่งสูงขึ้น

ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ชี้ให้เห็นสัญญาณเตือนภัยเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ที่กลับมาระบาดอีกครั้งในประเทศไทย ตัวเลขผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 เพิ่มสูงขึ้นถึง 47.6% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน

ตัวเลขที่น่ากังวล

  • เสียชีวิต 1 ราย
  • ปอดอักเสบ 63 ราย
  • ใส่ท่อช่วยหายใจ 43 ราย
  • คาดการณ์ผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 2,172-3,016 ราย

ตรวจ ATK ผลลบ อาจจะไม่ปลอดภัย

ข้อมูลสำคัญที่ควรทราบคือ การตรวจหาเชื้อด้วย ATK ในช่วง 3 วันแรกหลังมีอาการ มีความไวลดลงเหลือเพียง 30-60% เท่านั้น หมายความว่า มีโอกาสสูงที่จะตรวจพบผล “ลบปลอม”

ตรวจซ้ำเพื่อความมั่นใจ

แพทย์แนะนำให้ตรวจซ้ำอีกครั้งในวันที่ 4-5 หลังมีอาการ เพื่อเพิ่มโอกาสในการตรวจพบเชื้อ

จำนวนผู้ติดเชื้อจริงอาจสูงกว่าที่คาดการณ์

ด้วยข้อจำกัดของการตรวจ ATK ประกอบกับผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งไม่แสดงอาการ ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อจริงในแต่ละวัน น่าจะมีมากกว่าตัวเลขที่รายงานอย่างเป็นทางการ

สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี

โควิด-19 ไม่ใช่แค่ไข้หวัดธรรมดา

  • ติดเชื้อแต่ละครั้ง ป่วยนานกว่า
  • เสี่ยงต่ออาการผิดปกติหลังติดเชื้อ
  • เสี่ยงเสียชีวิต
  • เสี่ยงต่อภาวะลองโควิด และโรคเรื้อรังอื่นๆ

แม้ว่ามนุษย์จะพัฒนาวัคซีนและยาเพื่อต่อสู้กับโรคระบาดได้อย่างรวดเร็ว แต่โรคร้ายเหล่านี้ยังคงคร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนมากในอดีตและปัจจุบัน ตัวอย่างโรคระบาดร้ายแรง ได้แก่ กาฬโรค ฝีดาษ อหิวาตกโรค ไข้หวัดใหญ่ เอชไอวี/เอดส์ และล่าสุดคือ โควิด-19

แม้จะไม่มีทางป้องกันโรคระบาดได้อย่างสมบูรณ์ แต่เราสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามเหล่านี้ได้ดีขึ้น โดย

  • พัฒนาระบบเฝ้าระวังและติดตามโรค: การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้เราสามารถระบุและควบคุมโรคระบาดได้อย่างทันท่วงที
  • ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาวัคซีนและยา: การลงทุนในการวิจัยและพัฒนายารักษาโรคและวัคซีน จะช่วยให้เราสามารถควบคุมโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน: การให้ความรู้เกี่ยวกับโรคระบาด วิธีการป้องกัน และการรักษา จะช่วยลดความตื่นตระหนกและส่งเสริมให้ผู้คนมีพฤติกรรมที่ปลอดภัย
  • เสริมสร้างระบบสาธารณสุข: ระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ฝุ่น PM 2.5” และ “วิกฤตโควิด-19” สอนให้เรารู้ว่า ในยามวิกฤต แต่ละคนต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง การเรียนรู้จากบทเรียน และเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามใหม่ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น

โอมิครอน งานวิจัยจากสหรัฐอเมริกา เผยให้เห็นความน่าตกใจว่า เด็กและวัยรุ่นมีแนวโน้มแพร่เชื้อโอมิครอนได้มากกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า สิ่งนี้ตอกย้ำถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพเด็กๆ และวัยรุ่น

4 เหตุผลทำไมเด็กและวัยรุ่นจึงแพร่เชื้อโอมิครอนได้ง่าย?

  1. เด็กมักมีกิจกรรมรวมกลุ่ม เล่นสนุกใกล้ชิดกัน ทำให้เชื้อแพร่กระจายได้ง่าย
  2. เด็กมีภูมิคุ้มกันน้อยกว่าผู้ใหญ่
  3. เด็กอาจไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ทำให้ไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ
  4. เด็กมักได้รับการตรวจคัดกรองน้อยกว่าผู้ใหญ่

โควิด-19 ยังคงอยู่กับเรา และสายพันธุ์ใหม่ BA.2.86.x กำลังแพร่ระบาดในหลายประเทศ คาดการณ์ว่าปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า สถานการณ์โลกจะชัดเจนขึ้น

แนวทางป้องกัน

  • ดูแลสุขภาพเด็กๆ และวัยรุ่นอย่างใกล้ชิด
  • สอนให้เด็กๆ รู้จักป้องกันตนเอง ล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย
  • สังเกตอาการเด็กๆ หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ ให้รีบตรวจหาเชื้อ
  • ฉีดวัคซีนให้ครบโดส ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
  • ติดตาม ข่าวโรคระบาด สถานการณ์โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง
RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้

Most Popular

Recent Comments