ร่วมงาน นมัสการพระธาตุพนม ประจำปี 2567 เปิดแล้ว! สืบสานศรัทธา ประเพณี ยิ่งใหญ่

บรรยากาศงาน นมัสการพระธาตุพนม ประจำปี 2567 จังหวัดนครพนม คึกคักไปด้วยพลังศรัทธา ประชาชนชาวไทยและชาวลาวจากฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโขง หลั่งไหลเข้าร่วมงานนับแสนคน ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ข่าวท่องเที่ยว บรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม คึกคักไปด้วยประชาชนและนักท่องเที่ยว เนื่องในโอกาสงานบุญเดือนสาม นมัสการพระธาตุพนม ประจำปี 2567 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-25 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมี “พิธีแห่พระอุปคุต” กิจกรรมสำคัญในภาคเช้าของวันแรก คือ พิธีแห่พระอุปคุต เริ่มต้นด้วยขบวนแห่เครื่องสักการบูชาอันงดงาม ตามมาด้วยขบวนแห่พระอุปคุต จำลององค์พระอุปคุตจากวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ลงสู่ท่าน้ำริมแม่น้ำโขง ท่ามกลางเสียงสวดมนต์บทสรรเสริญพระพุทธคุณ ประชาชนต่างร่วมพิธีด้วยความศรัทธา งานบุญเดือนสาม นมัสการองค์พระธาตุพนม จึงไม่ใช่แค่เพียงงานประเพณี แต่เป็นมหกรรมแห่งศรัทธาที่รวมพลังศรัทธาของผู้คนจากทุกสารทิศ สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่ออันดีงามของชาวอีสาน

ยามเช้าตรู่ของวันแรก ก่อนการเปิดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม บรรยากาศคึกคัก เต็มไปด้วยพลังศรัทธาของชาวอีสาน ต่างมุ่งหน้ามารวมตัวกัน ณ ลานหน้าวัดพระธาตุพนม เพื่อร่วมพิธีแห่อุปคุต ประเพณีอันเก่าแก่ที่สืบทอดมายาวนานกว่า 40 ปี เสียงกลองดังกึกก้อง ประกาศถึงการเริ่มต้นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ขบวนแห่เคลื่อนขบวนอย่างสง่างาม นำโดยพระสงฆ์สามเณร ญาติโยม และเหล่าผู้ศรัทธา ร่วมแห่รูปหล่อพระอุปคุตองค์ใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก สูง 7 ศอก ผ่านถนนสายหลักใจกลางเมือง ท่ามกลางสายตาผู้คนนับหมื่นที่เฝ้ารอ

ก่อนเริ่มงานนมัสการองค์พระธาตุพนม จะมีพิธีอัญเชิญองค์พระอุปคุต เทพเจ้าผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ ตามความเชื่อโบราณ เชื่อกันว่าองค์พระอุปคุตจะปกป้องคุ้มครองให้งานดำเนินไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย ตลอด 9 วัน 9 คืน สะท้อนถึงพลังศรัทธาอันแรงกล้าของชาวอีสานที่มีต่อองค์พระธาตุพนม

อีกทั้งงาน นมัสการพระธาตุพนม ในปี 2567 เปรียบเสมือนงานบุญประจำปีของชาวอีสาน ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกสารทิศให้มาร่วมงาน ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น มีเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก เต็มไปด้วยผู้มาเยือน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น โดยงานนมัสการองค์พระธาตุพนม เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2519 จนถึงปัจจุบัน สืบทอดมายาวนานกว่า 40 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาของชาวอีสานที่มีต่อองค์พระธาตุพนม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง อีกทั้งงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ยังเกี่ยวข้องกับตำนานพระอุรังคนิทาน เล่าถึงพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับแรมที่ภูกำพร้า สถานที่สร้างองค์พระธาตุพนมในปัจจุบัน

ไฮไลท์สำคัญของงาน

• พิธีอัญเชิญองค์พระอุปคุต: ขบวนแห่ทางเรือจากริมแม่น้ำโขง สู่วัดพระธาตุพนม เต็มไปด้วยสีสันและความศรัทธา
• การแห่ผ้าห่มองค์พระธาตุพนม: ประชาชนร่วมแห่ผ้าห่มองค์พระธาตุพนม แสดงถึงความศรัทธาและความเคารพบูชา
• พิธีเวียนเทียน: ประชาชนเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุพนม เพื่อความเป็นสิริมงคล
• การฟังธรรมเทศนา: พระสงฆ์ผู้ทรงศีล บรรยายธรรมเทศนา สอนให้ประชาชนดำเนินชีวิตตามหลักศาสนา
• การจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง: สินค้าพื้นเมือง อาหาร ของที่ระลึก มากมาย ให้เลือกซื้อ

หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน พระมหากัสสปะเถระ พร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 รูป ได้ร่วมกันอัญเชิญพระอุรังคธาตุ (กระดูกหน้าอก) ของพระพุทธเจ้า มายังภูกำพร้า เมืองศรีโคตรบูร (ปัจจุบันคือจังหวัดนครพนม) เพื่อบรรจุไว้ ณ ใจกลางเมือง

การก่อสร้างองค์พระธาตุพนมในยุคแรกนั้น สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 12-14 หรือราวปี พ.ศ. 8 ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร กำลังรุ่งเรือง โดยการก่อสร้างจากดินดิบ เป็นรูปทรงเตาสี่เหลี่ยม ข้างในเป็นโพรงมีประตูทั้ง 4 ด้าน องค์พระธาตุพนมได้รับการบูรณะมาแล้วหลายครั้ง ตลอดระยะเวลากว่า 2,000 ปี ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 500 และต่อมาอีก 5 ครั้ง พระธาตุพนมจึงถือเป็นศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวอีสาน เป็นที่เคารพสักการะของผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ เชื่อกันว่าหากได้มากราบไหว้ขอพร จะช่วยเสริมมงคล บารมี และแคล้วคลาดปลอดภัย ต่อมาจึงได้มีการจัดงาน นมัสการพระธาตุพนม มาโดยตลอดจนถึงปี 2567 ปัจจุบันนี้

11 สิงหาคม พ.ศ. 2518 วันที่กลายเป็นตำนานสลดใจคนไทย เมื่อ “พระธาตุพนม” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวอีสาน ล้มทลายลงด้วยเหตุจากฐานรากเก่าแก่ เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนทั่วประเทศ ทว่า ภายใต้ซากปรักหักพัง กลับปรากฏ “ผอบแก้ว” บรรจุ “พระอุรังคธาตุ” 8 องค์ สิ่งล้ำค่าที่หล่อเลี้ยงศรัทธาของผู้คนไว้

การฟื้นคืนชีพ ของพระธาตุพนมเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2519 ด้วยการก่อสร้างเจดีย์องค์ใหม่ โดยใช้ฐานทรงสี่เหลี่ยม สูง 57 เมตร ประดับยอดฉัตรทองคำน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ พลังศรัทธา ที่หลั่งไหลจากผู้คนทั่วทุกสารทิศ หล่อเลี้ยงให้พระธาตุพนมกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง ประเพณี “นมัสการพระธาตุพนม” กลายเป็นงานยิ่งใหญ่ ประจำปี 2567 ที่สืบทอดมายาวนาน ดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นปีละหลายร้อยล้านบาท เงินบริจาคเพื่อบูชาองค์พระธาตุพนมก็สูงถึง 20-30 ล้านบาทต่อปี