1win aviatormostbet aviatormostbetluckyget1 win indiamosbetpin upone win gameпинапpin up casino online1win online1 win onlinepin up kzmosbet indiamosbetmostbetaviatormosbetmosbetpinupmosbet aviatorparimatchmosbet india4era betpinap1 win4rabet gamelucky jet online4rabet1win saytiparimatchpin up casino1 win1win lucky jetpin up betlucky jetmostbet casinomostbet1win casinopin up betting4rabet bdlukyjet1win apostalucky jet crashaviator mostbet1 win1win slotpin-up1winmostbet azmostbet az
วันจันทร์, พฤษภาคม 20, 2024
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้
หน้าแรกท่องเที่ยวไวน์ราคาถูกลง รัฐบาลลดภาษีไวน์กระตุ้นการท่องเที่ยว

ไวน์ราคาถูกลง รัฐบาลลดภาษีไวน์กระตุ้นการท่องเที่ยว

ในการพยายามกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังจากช่วงเวลาที่ยากลำบากของการระบาดใหญ่ รัฐบาลลดภาษีไวน์กระตุ้นการท่องเที่ยว ทำให้ราคาของ ไวน์ราคาถูกลง อย่างมาก การลดราคานี้ไม่เพียงแต่ทำให้ประชาชนมีความสุข แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวัฒนธรรมการดื่มไวน์ที่หลากหลายของประเทศ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

การปรับโครงสร้างภาษีสำหรับสินค้าไวน์และสุราแช่เป็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศไทย ด้วยการปรับลดอัตราภาษีให้เป็นสากลมากขึ้น ทำให้ราคาไวน์มีความเหมาะสมและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเลือกใช้จ่ายมากขึ้นในประเทศ

ในการปรับปรุงนี้ ไวน์และสปาร์กลิ้งไวน์ที่ทำจากองุ่น 100% จะมีการจัดเก็บภาษีใหม่ที่อัตราเดียว 5% ไวน์ราคาถูกลง ลดลงจากอัตราเดิมที่ 10% สำหรับราคาขายปลีกแนะนำเกิน 1,000 บาท และอัตราภาษีตามปริมาณแอลกอฮอล์จะปรับลดจาก 1,500 บาทต่อลิตรที่ 100 ดีกรี เหลือ 1,000 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ไวน์มีราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น

รัฐบาลลดภาษีไวน์กระตุ้นการท่องเที่ยว การปรับปรุงนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายท่องเที่ยวที่น่าสนใจยิ่งขึ้น ด้วยการเสนอให้ ข่าวท่องเที่ยว ไวน์ราคาถูกลง ทำให้มีราคาที่เหมาะสมและการสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวและส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในระยะยาว

ไวน์ราคาถูกลง รัฐบาลลดภาษีไวน์กระตุ้นการท่องเที่ยว

ยกขวดร้องเฮ! ไวน์ราคาถูกลง รัฐบาลลดภาษีไวน์กระตุ้นการท่องเที่ยว สุราพื้นบ้านถูกใจ สุราแช่ปรับขึ้น เบียร์นิ่ง ผับบาร์รอดตาย

สุราพื้นบ้าน: สุราแช่พื้นเมือง เช่น อุ, กะแช่, และสาโท ซึ่งมีแอลกอฮอล์ไม่เกิน 7 ดีกรี ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าจาก 10% เป็น 0% ในขณะที่ภาษีตามปริมาณยังคงอยู่ที่ 150 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์ที่ 100 ดีกรี การปรับลดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนสุราพื้นบ้าน ตัวอย่างเช่น ภาษีสำหรับสาโทได้ลดลงจาก 9.55 บาทต่อขวดเป็น 6.09 บาท

สุรากลั่นผสม: สุราแช่ ที่มีสุรากลั่นผสมและมีแอลกอฮอล์เกิน 7 ดีกรี เช่น เหล้าโชจู ยังคงเก็บภาษีมูลค่าที่ 10% แต่ภาษีตามปริมาณได้รับการปรับขึ้นจาก 150 บาทเป็น 255 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์ที่ 100 ดีกรี เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการจัดเก็บภาษี ตัวอย่างเช่น ภาษีสำหรับโชจูแช่ได้เพิ่มขึ้นจาก 13 บาทต่อขวดเป็น 17 บาท ในขณะที่โชจูแบบกลั่นยังคงเก็บภาษีที่ 23 บาทต่อขวด

ภาษีเบียร์: สำหรับเบียร์ที่ใช้ในการค้า อัตราภาษียังคงเดิมที่ 22% ตามมูลค่า และ 430 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์

มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว: เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการผับและบาร์ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รัฐบาลได้ปรับลดอัตราภาษีจาก 10% เป็น 5% ของรายรับ ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ถึง 31 ธันวาคม 2567 เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวของกิจการและการจ้างงาน นโยบายภาษีดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความยุติธรรมและสนับสนุนการผลิตในประเทศ พร้อมทั้งช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้สามารถกลับมาดำเนินการได้อย่างมั่นคง

กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ กระทรวงการคลังปรับโครงสร้างภาษีไวน์ หวังเงินสะพัดหลายพันล้าน

การปรับโครงสร้างภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นกลยุทธ์ที่กระทรวงการคลังใช้เพื่อส่งเสริมการบริโภคและการลงทุนในประเทศ โดยการลดภาษีสำหรับไวน์ราคาถูกลง ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่คาดว่าจะส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในประเทศหลายพันล้านบาท แม้ว่าจะมีการสูญเสียรายได้จากภาษีประมาณ 1,000 ล้านบาทก็ตาม

นอกจากนี้ รัฐบาลลดภาษีไวน์กระตุ้นการท่องเที่ยว ยังเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่คาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง ในส่วนของการนำเข้าไวน์ กรมศุลกากรได้กำหนดนโยบายที่ชัดเจนเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ โดยประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถนำเข้าไวน์ เหล้า เบียร์ ได้ไม่เกิน 1 ลิตรต่อคนโดยไม่ต้องเสียภาษี หากนำเข้าเกินกว่านั้น แต่ไม่เกิน 10 ลิตร จะต้องเสียภาษีตามอัตราที่กำหนด และจะได้รับแสตมป์ที่ระบุว่า “ห้ามจำหน่าย” เพื่อป้องกันการจำหน่ายต่อ

ผู้ประกอบการที่ต้องการนำเข้าไวน์จะต้องขออนุญาตและยื่นเสียภาษีอย่างถูกต้อง โดยมีขั้นตอนที่ชัดเจนในการยื่นแจ้งจำนวนไวน์ที่นำเข้าเพื่อเสียภาษีและติดแสตมป์ก่อนที่จะนำไปจำหน่าย ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราภาษีและขั้นตอนต่างๆสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพสามิต

ในด้านการจัดเก็บภาษีไวน์ รัฐบาลไม่ได้แยกการจัดเก็บภาษีไวน์ออกจากภาษีสุราอื่นๆ แต่รวมอยู่ในหมวดภาษีสุราทั้งหมด ในปีงบประมาณ 2566 รัฐมีรายได้จากภาษีสุราทั้งหมด 64,168 ล้านบาท และภาษีเบียร์ 86,481 ล้านบาท สำหรับไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2567 รัฐจัดเก็บภาษีสุราได้ 17,322 ล้านบาท และภาษีเบียร์ 21,415 ล้านบาท

นี่คือโอกาสดีสำหรับนักดื่มที่จะได้ลิ้มลองไวน์และสุราแช่หลากหลายชนิดในราคาที่ย่อมเยากว่าเดิม!

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้

Most Popular

Recent Comments