ไต้หวันจับมือไทย ร่วมมือกันพัฒนา ปั้นโมเดล ต้นแบบเศรษฐกิจใหม่ “หญ้าเนเปียร์” มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริม เศรษฐกิจฐานรากผ่านการเกษตรอัจฉริยะ และเศรษฐกิจหมุนเวียน โมเดลนี้มุ่งหวังที่จะสร้างรายได้ให้เกษตรกรไทย พัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างความยั่งยืนให้กับภาคการเกษตร
การประชุมเชิงปฏิบัติการล่าสุดที่จัดขึ้นโดยบริษัท ซิโนมาร์ท แพลทฟอร์ม จำกัด ณ สกลนคร ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในหัวข้อของ ข่าวสิ่งแวดล้อม เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการเปิดเผยถึงโครงการที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงอนาคตของการเกษตรกรรมและการจัดการพลังงาน โดยเฉพาะโครงการปลูกหญ้าเนเปียร์เพื่อเสริมรายได้และลดผลกระทบของภาวะโลกร้อน
โครงการนี้มุ่งเน้นการปลูกหญ้าเนเปียร์เพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรในจังหวัดสกลนคร ซึ่งมีอาชีพหลักในการทำนา ทำสวน และเลี้ยงสัตว์ หญ้าเนเปียร์ไม่เพียงแต่ใช้เป็นอาหารสัตว์เท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตพลังงานทดแทนได้อีกด้วย นอกจากนี้ โครงการนี้ยังมีศักยภาพในการสร้างรายได้ที่มั่นคงและเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร พร้อมทั้งลดการใช้ทรัพยากรฟอสซิลและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
การร่วมมือกับไต้หวันในการสร้างโมเดลเศรษฐกิจใหม่ที่ยั่งยืนภายใต้แนวคิด Green Economy หรือเศรษฐกิจสีเขียว จะช่วยให้เกิดการใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่าและมีประโยชน์สูงสุด โดยมุ่งหวังที่จะแก้ไขปัญหามลพิษและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้วยการปลูกหญ้าเนเปียร์และการพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจใหม่นี้ ไทยไม่เพียงแต่จะสามารถสร้างรายได้และอาชีพใหม่ให้กับชุมชนเกษตรกร แต่ยังเป็นการสร้างต้นแบบใหม่ในการจัดการทรัพยากรและพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับอนาคต
เกษตร 4.0 ยกระดับชีวิตเกษตรกรไทยด้วยเทคโนโลยี
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว การปรับตัวของภาคเกษตรกรรมเพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับผลผลิตกลายเป็นสิ่งจำเป็น ประเทศไทย ซึ่งมีรากฐานทางเศรษฐกิจและสังคมที่แข็งแกร่งในภาคเกษตรกรรม กำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาเอกลักษณ์ของสังคมเกษตรกรรม ในขณะที่ยังต้องพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น การที่นักธุรกิจจากไต้หวันแสดงความสนใจในการแปรรูป หญ้าเนเปียร์ เป็นพลังงานสะอาด นับเป็นตัวอย่างของการ “ไต้หวันจับมือไทย” ในการ “ปั้นโมเดล” ใหม่ที่สามารถนำไปสู่ “ต้นแบบเศรษฐกิจใหม่” ที่ยั่งยืน
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับเกษตรกรรุ่นใหม่ที่จะได้เข้ามามีส่วนร่วมในภาคเกษตรที่มีความทันสมัยและมีความยั่งยืนมากขึ้น การร่วมมือกันระหว่างไต้หวันและไทยในการพัฒนาหญ้าเนเปียร์เป็นพลังงานสะอาด ไม่เพียงแต่ช่วยให้ไทยสามารถรักษาเอกลักษณ์ของสังคมเกษตรได้ แต่ยังเป็นการสร้างเส้นทางใหม่ที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในโครงการที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมและมุ่งมั่นสู่อนาคตที่ยั่งยืน การร่วมมือระหว่างไต้หวันและไทยได้ก่อให้เกิดการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นในอุตสาหกรรมการเกษตร ด้วยการนำเสนอโมเดลใหม่ของเศรษฐกิจที่ใช้หญ้าเนเปียร์เป็นต้นแบบ นายสุวิเชียร ผ่องนัยเลิศ ได้เปิดเผยถึงความร่วมมือนี้ว่าเป็นการผสานความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีและทรัพยากรทางการเงินจากไต้หวัน โดยมีคุณวิกกี้และคุณชานเป็นตัวแทนที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนโครงการ
การตั้งเป้าหมายในการรับหญ้าเนเปียร์ที่ผ่านการแปรรูปถึงห้าหมื่นตันต่อเดือน และหญ้าสดระหว่างหนึ่งแสนถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นตันต่อเดือน ได้สร้างโอกาสใหม่ให้กับเกษตรกรในการเข้าถึงตลาดที่มีศักยภาพและการรับประกันราคาที่เป็นธรรม ที่ราคาสามร้อยห้าสิบบาทต่อตัน นอกจากนี้ การคำนวณราคาของหญ้าสดตามความชื้นที่หายไปยังเป็นการรับรองความเป็นธรรมให้กับเกษตรกรในการคำนวณน้ำหนักที่สูญเสียไป การสนับสนุนจากไต้หวันไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างมูลนิธิสำหรับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะช่วยให้การใช้พลังงานในอนาคตเป็นไปอย่างยั่งยืน นี่คือการปั้นโมเดลหญ้าเนเปียร์เป็นต้นแบบเศรษฐกิจใหม่ที่ไม่เพียงแต่สร้างโอกาสใหม่ในอุตสาหกรรมการเกษตรเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนอีกด้วย
ในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจและการเกษตรของไทย การปลูกหญ้าเนเปียร์ได้กลายเป็นต้นแบบใหม่ที่น่าสนใจ โดยมีการจับมือกับไต้หวันเพื่อปั้นโมเดลการพัฒนาที่ยั่งยืน หญ้าเนเปียร์ ซึ่งเป็นพืชที่มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 8 ปี และสามารถเติบโตได้สูงถึง 5-6 เมตร ได้รับความนิยมในการปลูกเพื่อการเกษตรที่มีประสิทธิภาพ การปลูกหญ้าเนเปียร์มีวิธีการที่หลากหลาย แต่สองวิธีหลัก ได้แก่ การปลูกด้วยท่อนสั้นและท่อนยาว สำหรับท่อนสั้น จะใช้ระยะปลูก 75 x 75 เซนติเมตร ปลูกหลุมละ 2 ท่อน โดยให้โคนท่อนเอียงลงดิน และให้ข้อท่อนอยู่ใต้ดินลึกประมาณ 1-2 นิ้ว ส่วนท่อนยาวจะวางนอนเป็นแถวติดต่อกัน โดยมีระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 0.75-1 เมตร และกลบดินให้ท่อนพันธุ์อยู่ลึก 1-2 นิ้ว การส่งเสริมการปลูกหญ้าเนเปียร์ในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร ซึ่งได้ร่วมมือกันเพื่อสร้างโมเดลการเกษตรที่ยั่งยืนและเป็นต้นแบบใหม่ของเศรษฐกิจไทย