1win aviatormostbet aviatormostbetluckyget1 win indiamosbetpin upone win gameпинапpin up casino online1win online1 win onlinepin up kzmosbet indiamosbetmostbetaviatormosbetmosbetpinupmosbet aviatorparimatchmosbet india4era betpinap1 win4rabet gamelucky jet online4rabet1win saytiparimatchpin up casino1 win1win lucky jetpin up betlucky jetmostbet casinomostbet1win casinopin up betting4rabet bdlukyjet1win apostalucky jet crashaviator mostbet1 win1win slotpin-up1winmostbet azmostbet az
วันอาทิตย์, พฤษภาคม 19, 2024
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้
หน้าแรกท่องเที่ยวเที่ยวไทย 67 ฟินกว่าที่คิด คุ้มกว่าที่ฝัน เงินสะพัด 2.52 ล้านล้าน

เที่ยวไทย 67 ฟินกว่าที่คิด คุ้มกว่าที่ฝัน เงินสะพัด 2.52 ล้านล้าน

เที่ยวไทย 67 คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวโน้มว่านักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะเข้ามาในประเทศประมาณ 34 ล้านคน ซึ่งเป็นการฟื้นตัวถึงร้อยละ 85 เมื่อเทียบกับยุคก่อนการระบาดของโควิด-19 ในปี 2562 กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักที่คาดว่าจะกลับมาเยือนไทยได้ในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนมีการระบาด ได้แก่ นักท่องเที่ยวจากอาเซียน อินเดีย รัสเซีย และยุโรป ในขณะที่การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 พบว่ามีจำนวนมากกว่าคนไทยเกือบสิบเท่า

ในปี 2566 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยได้เห็นการฟื้นตัวที่น่าประทับใจ ด้วยการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและคนไทยเอง ที่มีจำนวนถึง 28.2 ล้านคนและ 249 ล้านคนตามลำดับ การเดินทางท่องเที่ยวเหล่านี้ไม่เพียงแต่รวมถึงการพักค้างคืน แต่ยังรวมถึงการเดินทางไปกลับในวันเดียว ส่งผลให้เกิดรายได้มหาศาลถึง 2.17 ล้านล้านบาทให้กับประเทศ

การคลายข้อจำกัดจากสถานการณ์โควิด-19 ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติกลับมาเยือนไทยอีกครั้ง โดยมีการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 154% เมื่อเทียบกับปีก่อน และนักท่องเที่ยวไทยเองก็เพิ่มขึ้น 22% การเดินทางเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความสามารถของไทยในการต้อนรับนักท่องเที่ยวในยุคใหม่ ที่มีความปลอดภัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

“เที่ยวไทย 67 ฟื้นตัว! อัตราเข้าพักโรงแรมพุ่ง 69% ใกล้เคียงปี 2562”

ข่าวท่องเที่ยว เผยข้อมูลในปี 2566 ภาคการท่องเที่ยวของไทยได้เห็นการฟื้นตัวที่น่าประทับใจ โดยมีอัตราการเข้าพักในโรงแรมทั่วประเทศที่ 69.3% ซึ่งเข้าใกล้ระดับของปี 2562 และราคาห้องพักเฉลี่ยที่ขายได้อยู่ที่ 1,488 บาทต่อห้อง สะท้อนถึงการฟื้นตัวประมาณ 86% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายโดยรวมต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ประมาณ 2.5%

ด้านนักท่องเที่ยวไทย แม้ว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นเกินระดับก่อนโควิด-19 แต่การใช้จ่ายต่อหัวยังคงต่ำกว่าช่วงนั้นถึง 27% ในปีเดียวกันนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติมีการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ 46,713 บาท ซึ่งยังคงต่ำกว่าปี 2562 อยู่เล็กน้อย สาเหตุหลักมาจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติหลักในปี 2566 ยังคงเป็นกลุ่มจากอาเซียนที่มีการใช้จ่ายที่ค่อนข้างต่ำ ในขณะที่นักท่องเที่ยวไทยมีการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวในปี 2566 อยู่ที่ 3,448 บาท ต่ำกว่าในปี 2562 ที่มีการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 4,724 บาท

อาเซียน อินเดีย รัสเซีย ยุโรป กลุ่มหลักหนุน เที่ยวไทย 67

ตามการวิเคราะห์ของ Krungthai COMPASS อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยในปี 2567 จะยังคงแสดงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่า เที่ยวไทย 67 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประมาณ 34 ล้านคน ซึ่งเป็นการฟื้นตัวประมาณ 85% เมื่อเทียบกับยอดก่อนการระบาดของโควิด-19 ในปี 2562 กลุ่มนักท่องเที่ยวหลัก อาทิ อาเซียน อินเดีย รัสเซีย และยุโรป คาดว่าจะกลับมาในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนมีการระบาด

สำหรับนักท่องเที่ยวจากจีน ซึ่งเป็นตลาดหลัก คาดว่าจะฟื้นตัวได้ประมาณ 63% เมื่อเทียบกับปี 2562 สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ค่อนข้างช้า และปัญหาวิกฤติในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีผลต่อกำลังซื้อและการตัดสินใจเดินทางไปต่างประเทศของคนจีน ด้วยเหตุนี้ มูลค่าตลาดการท่องเที่ยวของไทยในปี 2567 จึงคาดว่าจะอยู่ที่ราว 2.52 ล้านล้านบาท หรือฟื้นตัวประมาณ 84% เมื่อเทียบกับปี 2562

เที่ยวไทย 67

กลุ่มกรุ๊ปทัวร์ มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยคาดว่า ในปี 2568 จะกลับมาฟื้นตัวใกล้เคียงกับสภาพปกติ โดยมีการคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีจำนวนถึง 38.5 ล้านคน และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.2 ล้านคนต่อเดือน นักท่องเที่ยวจากจีน โดยเฉพาะกลุ่มทัวร์ คาดว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัวได้ถึง 87% เมื่อเทียบกับปี 2562

สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอื่นๆ (ไม่รวมจีน) จำนวนนักท่องเที่ยวคาดว่าจะกลับมาเท่ากับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ในขณะที่นักท่องเที่ยวไทยคาดว่าจะยังคงมีการเติบโตต่อเนื่องประมาณ 2-3% ต่อปี จากสถานการณ์ที่กลับสู่ภาวะปกติ นี้จะส่งผลให้มูลค่าตลาดการท่องเที่ยวในปี 2568 มีมูลค่าประมาณ 2.92 ล้านล้านบาท หรือฟื้นตัวได้ราว 98% เมื่อเทียบกับปี 2562

ใต้สะพรั่ง! ภูเก็ต สุราษฎร์ กระบี่ พังงา เตรียมรับนักท่องเที่ยวจีน

ตามการประเมินของ Krungthai COMPASS พบว่าในปี 2567 ถึง 2568 จังหวัดที่เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวชั้นนำของภาคใต้ เช่น ภูเก็ต, สุราษฎร์ธานี, พังงา และกระบี่ จะมีการฟื้นตัวที่ชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าบริษัททัวร์จากจีนจะเริ่มกลับเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการนำนโยบายวีซ่าฟรีมาใช้ ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 1 มีนาคม 2567 และการเปิดเส้นทางการบินระหว่างไทยกับจีนอีกครั้งในช่วงปลายปี 2566 ถึงปี 2567 สิ่งนี้จะช่วยให้จังหวัดท่องเที่ยวในภาคใต้ที่เคยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเติบโตอีกครั้งหนึ่ง

ปี 2567 การท่องเที่ยวไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างคึกคัก คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย 34 ล้านคน สร้างรายได้ 3.5 ล้านล้านบาท ปัจจัยสนับสนุนหลักๆ มาจาก:

1. กระแสการท่องเที่ยวที่ยังคงร้อนแรง ทั่วโลกต่างกระหายการออกเดินทางหลังจากถูกกักตัวมานาน ความต้องการท่องเที่ยวที่อัดอั้นจึงเป็นแรงผลักดันสำคัญ

2. การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ตลาดใหญ่ที่หายไปกำลังทยอยกลับมา แม้จะยังไม่เต็มรูปแบบ แต่ก็ถือเป็นสัญญาณดีต่อภาคการท่องเที่ยวไทย

3. การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน จำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น รองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยวได้อย่างเพียงพอ

4. มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ เช่น ยกเว้นวีซ่า ขยายเวลาพำนัก และขยายเวลาให้บริการสถานประกอบการ ล้วนช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาไทยมากขึ้น

3 แนวคิดหลัก ขับเคลื่อน “เที่ยวไทย 67” ก้าวข้ามความท้าทาย สู่ยุคใหม่

Krungthai COMPASS มองอนาคต “การท่องเที่ยวไทย” 3 แนวคิดหลัก ที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ไทยก้าวข้ามความท้าทาย สู่ยุคทองของการท่องเที่ยวอีกครั้ง

1. เติมเต็มทุกช่วงเวลา กระตุ้นการท่องเที่ยวไร้รอยต่อ

ปลุกกระแส “เที่ยวไทย” ตลอดปี:

  • รังสรรค์แคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว
  • ออกแบบแพ็กเกจพิเศษ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
  • ผลักดันกิจกรรมส่งเสริมการขาย ดึงดูดนักท่องเที่ยว

เติมเต็ม “Low Season” ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว:

  • ค้นหาจุดเด่น นำเสนอเอกลักษณ์ของแต่ละภูมิภาค
  • พัฒนาสินค้าและบริการ ตอบโจทย์ความต้องการนักท่องเที่ยว
  • สร้างสรรค์เทศกาลและกิจกรรม ดึงดูดนักท่องเที่ยว

2. ประสบการณ์เหนือระดับ ดึงดูดใจให้อยากกลับมา

สร้างความแปลกใหม่ แตกต่างไม่เหมือนใคร:

  • พัฒนา “การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์” เน้นการมีส่วนร่วม
  • ผสมผสาน “เทคโนโลยีดิจิทัล” ยกระดับการท่องเที่ยว
  • ส่งเสริม “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” ตอบโจทย์เทรนด์โลก

มัดใจนักท่องเที่ยว ด้วยบริการที่ประทับใจ:

  • พัฒนาทักษะการบริการ เน้นความเป็นมิตร
  • ยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว
  • สร้างความประทับใจ ด้วยบริการที่เหนือความคาดหมาย

3. ยกระดับความปลอดภัย สร้างความมั่นใจ

สร้างมาตรฐานความปลอดภัย:

  • พัฒนาระบบความปลอดภัยครอบคลุมทุกมิติ
  • เพิ่มมาตรการป้องกันอาชญากรรม
  • ยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยว สร้างความมั่นใจ

สร้างภาพลักษณ์ “ประเทศไทยปลอดภัย”:

  • สื่อสารประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้
  • รณรงค์สร้างจิตสำนึก เน้นความปลอดภัย
  • พัฒนาแอปพลิเคชัน ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้

Most Popular

Recent Comments