1win aviatormostbet aviatormostbetluckyget1 win indiamosbetpin upone win gameпинапpin up casino online1win online1 win onlinepin up kzmosbet indiamosbetmostbetaviatormosbetmosbetpinupmosbet aviatorparimatchmosbet india4era betpinap1 win4rabet gamelucky jet online4rabet1win saytiparimatchpin up casino1 win1win lucky jetpin up betlucky jetmostbet casinomostbet1win casinopin up betting4rabet bdlukyjet1win apostalucky jet crashaviator mostbet1 win1win slotpin-up1winmostbet azmostbet az
วันจันทร์, พฤษภาคม 20, 2024
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้
หน้าแรกแม่และเด็กหน้าร้อน ลูกน้อยเป็นผดร้อน มีวิธีแก้ไข คุณแม่ต้องเตรียมตัวรับมือ

หน้าร้อน ลูกน้อยเป็นผดร้อน มีวิธีแก้ไข คุณแม่ต้องเตรียมตัวรับมือ

หน้าร้อน ลูกน้อยเป็นผดร้อน มีวิธีแก้ไข คุณแม่ต้องเตรียมตัวรับมือ ผดร้อน เป็นปัญหากวนใจที่พบได้บ่อยในทารกและเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน แม้อาการของผดร้อนมักไม่รุนแรงและอาจหายไปเองภายในเวลาไม่กี่วัน แต่สามารถทำให้เกิดอาการคันหรือความรู้สึกไม่สบายตัวจนลูกร้องงอแงได้

หน้าร้อน ลูกน้อยเป็นผดร้อน

ผดร้อน (Miliaria bubra) คือ หนึ่งในอาการของโรคผิวหนังที่เกิดจากการอุดตันของต่อมเหงื่อ มักเกิดขึ้นในช่วงหน้าร้อน หรือช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น พบได้ทั่วร่างกาย เช่น บริเวณใบหน้า คอ ข้อพับ หลัง อก แขน ขาหนีบ หรือบริเวณใต้ร่มผ้าที่มีความอับชื้น ผดร้อนพบมากในเด็กทารก ที่ต่อมเหงื่อและผิวหนังยังพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ดี

หน้าร้อน ลูกน้อยเป็นผดร้อน

ผดร้อน ผดผื่นทารก เกิดขึ้นจากสาเหตุหลัก คือ ต่อมเหงื่ออุดตัน เมื่อต่อมเหงื่อเกิดการอุดตัน จะทำให้เหงื่อไม่สามารถไหลออกมาภายนอกได้ และเหงื่อก็ไม่สามารถจะระเหยบนผิวหนังได้ด้วย เมื่อเหงื่อระบายออกมาไม่ได้ หยดเหงื่อเหล่านั้นก็จะติดอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดการอักเสบและกลายเป็นผื่นขึ้นมา

 

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต่อมเหงื่ออุดตันนั้น ก็มาจากหลายปัจจัยเลย ไม่ว่าจะเป็น:

1.สภาพอากาศที่ร้อนชื้นหรือร้อนมาก

2.ทารกมีไข้สูง

3.ทารกที่อยู่ในตู้อบหลังเกิด มีโอกาสเสี่ยงที่ต่อมเหงื่อจะอุดตัน

4.สวมใส่เสื้อผ้าหลายชั้น หรือเสื้อผ้าหนามากเกินไป ทำให้เหงื่อไม่สามารถระเหยออกมาได้

5.การเสียดสีระหว่างผิวหนังและเสื้อผ้า

อาการ ผดร้อน สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ลักษณะ ขึ้นอยู่กับความลึกของการอุดตันของท่อเหงื่อ ได้แก่

1.Miliaria crystallina เป็นการอุดตันของผิวหนังชั้นบนสุด มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสๆ ขนาดเล็กประมาณ 1 – 2 มิลลิเมตร ไม่มีอาการเจ็บ หรือคัน แต่ตุ่มน้ำจะแตกง่ายมาก

2.Miliaria rubra เป็นการอุดตันของต่อมเหงื่อบริเวณผิวหนังชั้นนอก แต่ลึกลงไปมากกว่าชั้น Miliaria crystallina มีลักษณะเป็นตุ่มสีแดง หรือตุ่มน้ำใสๆ มีอาการแสบ หรือคันร่วมด้วย

3.Miliaria pustulosa เป็นการอุดตันที่ผิวหนังชั้นที่ลึกลงมา มีลักษณะเป็นตุ่มหนอง

4.Miliaria profunda เป็นการอุดตันที่เกิดในชั้นหนังแท้ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง ไม่เจ็บ หรือคัน

 

โดยผดร้อนชนิดที่พบบ่อยในทารกแรกเกิด คือ Miliaria crystallina และ Miliaria rubra มักพบบริเวณผิวหนังที่มีการเสียดสีของเสื้อผ้า หรือผ้าอ้อม เช่น อก คอ หลัง ขา และข้อพับต่างๆ เป็นต้น แม้ว่าผดร้อนแต่ละชนิดจะไม่เป็นอันตราย และสามารถหายไปเองเมื่ออากาศ หรืออุณหภูมิของร่างกายเย็นลง แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม จากผื่นเล็กๆ ก็อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย และลุกลามกลายเป็นแผลอักเสบขนาดใหญ่ได้

ซึ่งผดร้อนนั้น จะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสๆ หรือตุ่มแดงขนาดเล็ก เหมือนหยดเหงื่อที่ติดอยู่ใต้ผิวหนัง ของเหลวในตุ่มใสนั้นอาจเป็นสีขาวใสหรือสีน้ำนม สามารถพบได้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ดังนี้

1.หน้าผาก

2.คอ

3.รักแร้

4.ก้น

5.ขาหนีบ

6.ไหล่

7.หน้าอก

8.ข้อพับข้อศอก

9.หลังเข่า

และผดเหล่านี้ก็จะก่อให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง ไม่สบายเนื้อ ไม่สบายตัว

 

ผดร้อนทารกกี่วันหาย

โดยปกติแล้วผดร้อนจะหายเองได้เมื่ออุณหภูมิในร่างกายและสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยเย็นลง โดยอาจใช้ระยะเวลาเพียง 2-3 วันเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม ร่างกายของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เด็กบางคนอาจมีอาการดีขึ้นเพียง 1-2 วัน เด็กบางคนอาจใช้เวลานานกว่านั้น

 

แต่ถ้าผ่านไป 3 วัน หรือนานกว่านั้น แล้วผดร้อนไม่มีท่าทีว่าจะทุเลาลง หรือมีผดร้อนเพิ่มมากขึ้น ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที

ผดร้อนเด็กรักษายังไง

ผดร้อนในทารก สามารถหายเองได้เมื่ออุณหภูมิในร่างกายและสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยเย็นลง โดยไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนการรักษาเฉพาะทาง

-ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้อาการผดร้อนของทารกค่อยๆ ดีขึ้นได้ ดังนี้

-พยายามเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ทารกบ่อยๆ

-เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่รัดแน่น และไม่สวมเสื้อผ้าให้ลูกหลายชั้นจนเกินความจำเป็น

-อาบน้ำเด็กทารกด้วยน้ำอุ่น เพื่อเปิดรูขุมขน

-หลังอาบน้ำไม่ต้องเช็ดตัวทารก แต่ซับเบาๆ เท่านั้นพอ

-ดูแลอากาศภายในบ้านหรือในห้องของทารกให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสม และมีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อนอบอ้าว

-หลีกเลี่ยงการใช้ครีม น้ำมันหอมระเหย หรือขี้ผึ้ง เพราะเสี่ยงจะทำให้อาการต่อมเหงื่ออุดตันแย่ลง

-เปิดพัดลม หรือเครื่องปรับอากาศ เพื่อไม่ให้อุณหภูมิในร่างกายของทารกสูง หรือรู้สึกร้อน เพราะยิ่งอากาศร้อนมากเท่าไหร่ ยิ่งเสี่ยงจะทำให้ต่อมเหงื่ออุดตันเพิ่มขึ้น

-ให้ทารกดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกาย และช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายเย็นลง

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้

Most Popular

Recent Comments