1win aviatormostbet aviatormostbetluckyget1 win indiamosbetpin upone win gameпинапpin up casino online1win online1 win onlinepin up kzmosbet indiamosbetmostbetaviatormosbetmosbetpinupmosbet aviatorparimatchmosbet india4era betpinap1 win4rabet gamelucky jet online4rabet1win saytiparimatchpin up casino1 win1win lucky jetpin up betlucky jetmostbet casinomostbet1win casinopin up betting4rabet bdlukyjet1win apostalucky jet crashaviator mostbet1 win1win slotpin-up1winmostbet azmostbet az
วันจันทร์, พฤษภาคม 20, 2024
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้
หน้าแรกท่องเที่ยวมท.3 มุ่งพัฒนาการท่องเที่ยว ชายแดนไทย-กัมพูชา เพิ่มรายได้ประชาชน

มท.3 มุ่งพัฒนาการท่องเที่ยว ชายแดนไทย-กัมพูชา เพิ่มรายได้ประชาชน

กระทรวงมหาดไทย มท.3 มุ่งพัฒนาการท่องเที่ยว เชิงบูรณาการ ชายแดนไทย-กัมพูชา เน้นเชื่อมโยงเมืองรอง ส่งเสริมสินค้าท้องถิ่น กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มรายได้ประชาชน

วันที่ 8 มีนาคม 2567 บรรยากาศภายในหอประชุมอำเภอกันทรลักษ์ อบอวลไปด้วยความคึกคัก ประชาชนกว่า 2,000 คน ร่วมให้การต้อนรับ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในโอกาสลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย (มท.)

การลงพื้นที่ครั้งนี้ นายชาดา มุ่งพัฒนาการท่องเที่ยว รับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยมี น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, นายคมกริช ชินชนะ ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาชุมชน มท.3 ร่วมลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหา ชายแดนไทย-กัมพูชา และ เพิ่มรายได้ประชาชน ตามความต้องการของประชาชน

กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การนำเสนอผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย การจัดนิทรรศการผลงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย การเปิดเวทีรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากประชาชน

ประชาชนในพื้นที่ ต่างมีโอกาสแสดงความคิดเห็น เสนอแนะปัญหา และความต้องการของชุมชน โดยตรงต่อรัฐมนตรีชาดา สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลในการรับฟังเสียงประชาชน นำมาสู่การพัฒนาที่ตรงจุดและยั่งยืน

อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ถือเป็นโมเดลต้นแบบในการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก พัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน

มท.3 ลุย! อำเภอกันทรลักษ์ ดินแดนแห่งศักยภาพ แก้ปัญหาท้องถิ่น เพิ่มรายได้ประชาชน มุ่งพัฒนาการท่องเที่ยว ชายแดนไทย-กัมพูชา

มท.3 ลุย! อำเภอกันทรลักษ์ ดินแดนแห่งศักยภาพ แก้ปัญหาท้องถิ่น เพิ่มรายได้ประชาชน มุ่งพัฒนาการท่องเที่ยว ชายแดนไทย-กัมพูชา

อำเภอกันทรลักษ์ ตั้งตระหง่านในจังหวัดศรีสะเกษ เปรียบเสมือนเพชรน้ำงามที่รอการเจียระไน ด้วยพื้นที่อันกว้างใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ อำเภอนี้เปี่ยมไปด้วยศักยภาพและความภาคภูมิใจของชาวศรีสะเกษและคนไทย

หลังจากปิดตายมานานหลายปี “จุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวช่องทางขึ้นเขาพระวิหาร” มท.3 ยืนยัน เตรียมกลับมาเปิดอีกครั้ง พร้อม มุ่งพัฒนาการท่องเที่ยว รวมถึง เพิ่มรายได้ประชาชน สร้างความฮือฮาให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ จุดผ่อนปรนนี้อยู่ที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เคยเป็นประตู ชายแดนไทย-กัมพูชา สำคัญ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือนปราสาทเขาพระวิหาร โบราณสถานอันงดงามบนยอดเขา

แต่ด้วยเหตุการณ์ความไม่สงบในอดีต ประตูแห่งนี้ถูกปิดตาย สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ ปัจจุบัน สถานการณ์ความตึงเครียดคลี่คลายลง ทั้งไทยและกัมพูชาเห็นพ้องต้องกันที่จะเปิดจุดผ่อนปรนนี้เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในชายแดน

ปัจจุบัน กระทรวงมหาดไทย ภายใต้การนำของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบายเปิดพื้นที่ท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น การเปิดจุดผ่อนปรนเขาพระวิหารจึงเป็นเป้าหมายสำคัญ

หน่วยงานในจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมแรงร่วมใจเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นจากการประชุมเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา นายอำเภอกันทรลักษ์ได้เป็นประธานในการประชุมเตรียมการ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร

24 พฤศจิกายน 2566 รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมหารือกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เกี่ยวกับความเหมาะสมในการเปิดจุดผ่อนปรน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่

ในวันที่ 11 มกราคม 2567 ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดทางขึ้นชมปราสาทพระวิหาร

การเปิดจุดผ่อนปรนเขาพระวิหาร จะเป็นการจุดประกายเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับชุมชน กระตุ้นธุรกิจในท้องถิ่น และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

อำเภอกันทรลักษ์ ดินแดนแห่งศักยภาพ กำลังเตรียมพร้อมสู่การเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง การกลับมาครั้งนี้ จะเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ และอนาคตที่สดใสของชุมชน

ดินแดนแห่งทุเรียนภูเขาไฟ กับความฝันที่รอวันเป็นจริง

บนผืนแผ่นดินไทย ยังมีมุมมองที่รอการค้นพบ หนึ่งในนั้นคือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ดินแดนที่รายล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส และของดีที่รอการบอกเล่า

ทุเรียนศรีสะเกษ หรือ “ทุเรียนภูเขาไฟ” ขึ้นชื่อเรื่องความหอมหวาน กลิ่นไม่แรง เนื้อแน่น ละมุนลิ้น เป็นที่ต้องการของนักชิมทั่วประเทศ ทว่า ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่รอการเปิดเผย

22 กุมภาพันธ์ 2567 คณะผู้แทนจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ร่วมด้วย มท.3 เดินทางลงพื้นที่ มุ่งพัฒนาการท่องเที่ยว ปราสาทเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับแผนพัฒนาจุดผ่อนปรนการท่องเที่ยว บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ประชาชนต่างตั้งตารอการเปิด ชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างเป็นทางการ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ และ เพิ่มรายได้ประชาชน รวมถึงการท่องเที่ยวในท้องถิ่น

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย หนึ่งในผู้ผลักดันการเปิดจุดผ่อนปรนฯ เล่าถึงความฝันอันยิ่งใหญ่

ณ ดินแดนที่โอบล้อมด้วยขุนเขา อากาศบริสุทธิ์ และผู้คนอัธยาศัยดี “กันทรลักษ์” จังหวัดศรีสะเกษ ดึงดูดให้ฉันฝันถึงการมาเยือน ใฝ่ฝันที่จะสัมผัสความสุขของผู้คน ลิ้มลองของดีขึ้นชื่อ และร่วมแบ่งปันเรื่องราวของพวกเขา ทุเรียนศรีสะเกษ หรือ “ทุเรียนภูเขาไฟ” คือหนึ่งในตำนานความอร่อย ผลไม้จากดินภูเขาไฟ เนื้อแน่น หวานมัน กลิ่นหอมละมุน โด่งดังไปทั่วประเทศ

แต่ท่ามกลางความสุข ยังมีปัญหาที่รอการแก้ไข “การเมือง” คือกุญแจสำคัญที่จะนำพา “กันทรลักษ์” ไปสู่ความเจริญ เราต้องร่วมมือกัน นำปัญหาของพี่น้องชาวกันทรลักษ์ เสนอต่อรัฐบาล เสนอต่อท่าน “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

จากอดีตสู่ปัจจุบัน ใต้ร่มพระบารมีของสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นดั่งร่มโพธิ์ทองอันร่มเย็น แผ่ขยายกิ่งก้านสาขา ปกป้องคุ้มครองผู้คนทุกเชื้อชาติ ให้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ร่มเย็น และเปี่ยมด้วยความเมตตา

ไม่ว่าใครก็ตาม ล้วนได้รับการโอบอุ้มด้วยพระบารมี ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ ต่างก็มีสิทธิ์เสมอภาค พึ่งพาอาศัย และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขใต้ร่มโพธิ์ทองแห่งนี้

ด้วยความศรัทธาอันแรงกล้า ประชาชนชาวไทยจึงพร้อมใจกันปกป้องสถาบันอันเป็นที่รัก ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และความผูกพันอันยาวนาน พวกเรารู้ดีว่า ประเทศไทยของเราสามารถยืนหยัดได้อย่างสง่างาม ด้วยพลังแห่งสถาบันพระมหากษัตริย์

การยกระดับจุดผ่อนปรนฯ อ.กันทรลักษ์ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการท่องเที่ยว แต่เป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และที่สำคัญคือ การร่วมปกป้องสถาบันหลักของชาติ

มุ่งพัฒนาการท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ประชาชน เสียงสะท้อนจากชุมชน ผลักดันอนาคตที่ยั่งยืนระหว่าง ชายแดนไทย-กัมพูชา สู่อำเภอกันทรลักษ์

มุ่งพัฒนาการท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ประชาชน เสียงสะท้อนจากชุมชน ผลักดันอนาคตที่ยั่งยืนระหว่าง ชายแดนไทย-กัมพูชา สู่อำเภอกันทรลักษ์

เมื่อเร็วๆ นี้ นายชาดา ตัวแทนจากภาครัฐ ได้ลงพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากตัวแทนภาคส่วนต่างๆ เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน

บนเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนความคิด ตัวแทนจากหลากหลายภาคส่วนในอำเภอกันทรลักษ์ ร่วมนำเสนอข้อมูลและความต้องการของชุมชน ผ่านมุมมองของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายกสมาคมกำนันและผู้ใหญ่บ้าน รวมไปถึงตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่

เสียงสะท้อนจากชุมชนเน้นย้ำถึงศักยภาพอันล้นเหลือของอำเภอกันทรลักษ์ ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ผลผลิตทางการเกษตรที่สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นทุเรียนภูเขาไฟ ปาล์ม ยางพารา พืชไร่พืชสวน ล้วนเป็นตัวชูโรงที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญที่ชุมชนเผชิญคือ การขาดแคลนแหล่งน้ำสำหรับการเกษตร การระบายน้ำที่ไม่สะดวก ส่งผลต่อผลผลิตและความมั่นคงทางอาหาร

“การพัฒนาแหล่งน้ำ การบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด” ตัวแทนจากชุมชนกล่าว

นอกจากนี้ ข่าวท่องเที่ยว ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น อดีตประเพณีวิ่งขึ้นเขาพระวิหารเคยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ปัจจุบัน ประชาชนในชุมชนยังคงหวังว่าจะมีโอกาสเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวที่เขาพระวิหารอีกครั้ง เพื่อต่อยอดความสำเร็จในอดีตและสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน

“พวกเรายังจดจำวันนั้นได้เสมอ วันที่ความฝันและโอกาสถูกเก็บไว้ใต้กลอนประตู วันที่เขาพระวิหารยังรอการเปิดประตูสู่โลกกว้าง” น.ส.จิณณพัต ตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่ พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง

การลงพื้นที่ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนในการร่วมกันพัฒนาอำเภอกันทรลักษ์ เสียงสะท้อนจากชุมชนจะเป็นข้อมูลสำคัญในการกำหนดแนวทางและนโยบายที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน และสร้างอนาคตที่สดใสให้อำเภอกันทรลักษ์ต่อไป

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้

Most Popular

Recent Comments