1win aviatormostbet aviatormostbetluckyget1 win indiamosbetpin upone win gameпинапpin up casino online1win online1 win onlinepin up kzmosbet indiamosbetmostbetaviatormosbetmosbetpinupmosbet aviatorparimatchmosbet india4era betpinap1 win4rabet gamelucky jet online4rabet1win saytiparimatchpin up casino1 win1win lucky jetpin up betlucky jetmostbet casinomostbet1win casinopin up betting4rabet bdlukyjet1win apostalucky jet crashaviator mostbet1 win1win slotpin-up1winmostbet azmostbet az
วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 9, 2024
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้
หน้าแรกข่าวเศรษฐกิจตลาดทุนไทยจับมือเอกชนจัดงาน”สานพลังเอกชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมสู่ความยั่งยืน”

ตลาดทุนไทยจับมือเอกชนจัดงาน”สานพลังเอกชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมสู่ความยั่งยืน”

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่าหนึ่งในเป้าหมายด้านตลาดทุนที่สำคัญของก.ล.ต. คือการสนับสนุนให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถเข้าถึงเงินทุนในตลาดทุนได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะการส่งเสริมกลุ่มธุรกิจได้แก่ กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SMEs กลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจภายใต้โมเดล BCG (Bio-Circular-Green) และกลุ่มอุตสากรรมเป้าหมายแห่งอนาคต New S-Curve

ก.ล.ต. จึงได้มีการออกเกณฑ์เพื่อให้สามารถระดมทุนในตลาดทุน ผ่านช่องทาง Cloud Funding และช่องทางการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อบุคคลในวงจำกัด โดยวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ PP-SMEs โดยมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสองช่องทาง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 66 ที่ผ่านมา มีมูลค่ามากกว่า 6,000 ล้านบาท รวมถึงมีการปรับเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ด้วยเกณฑ์มูลค่าหุ้นสามัญตามราคาตลาด เพื่อเป็นการส่งเสริมการระดมทุนของกลุ่มธุรกิจดังกล่าว

สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน สำนักงานได้จัดทำหลักเกณฑ์รองรับเครื่องทางการเงินเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืน หรือ Sustainable Theme Bonds โดยยอดเงินระดมทุน ณ สิ้นเดือนมกราคม 67 มีมูลค่ารวมมากกว่า 7 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการออกเกณฑ์ผลิตภัณฑ์อื่น เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการระดมทุนและการตอบโจทย์การลงทุนต่อไป

รวมทั้งส่งเสริมให้ภาคธุรกิจซึ่งเป็นภาคีสำคัญในการขับเคลื่อนความยั่งยืนผนวกแนวคิดเรื่อง ESG และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เข้าไปในกระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัทตลอดห่วงโซ่คุณค่า (value chain) และสามารถเปิดเผยข้อมูลให้ได้ตามมาตรฐานสากล อันจะช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมจากฐานรากสู่ความยั่งยืน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญต่อเสถียรภาพ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่โดยรวมของคนในประเทศเพื่อที่ทุกคนจะก้าวเดินไปด้วยกันอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และอุปนายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กล่าวว่า ความเหลื่อมล้ำในประเทศไทยเกิดจากการพัฒนาของที่มีปัญหา จากการพัฒนาที่ภาคอุตสาหกรรมก่อน หรือที่เมืองใหญ่เพื่อให้ความเจริญที่สร้างขึ้นมาไหลจากบนลงล่าง แต่สุดท้ายทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำมากกว่าเดิม และนำไปสู่ปัญหาชุมชนแออันในเมือง

การที่ได้ทำงานทั้งภาคส่วนตลาดทุน ภาคธุรกิจ และงานชุมชนมาตลอดหลายปี ทำให้ทราบดีว่า ทางภาคส่วนตลาดทุนและภาคธุรกิจ ไม่เคยหยุดนิ่งในการผนวกกิจกรรมด้าน ESG เข้ากับกลยุทธ์และแผนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทเพิ่มเติมจากการทำงานด้าน Corporate Social Responsibility (CSR) ซึ่งบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่มีการจัดสรรงบประมาณด้านนี้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง แต่การหาชุมชนที่จะสนับสนุนและส่งเสริมเพื่อให้เกิดความยั่งยืนที่แท้จริงนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายพอสมควร และในขณะเดียวกัน การที่ชุมชนหนึ่งจะสามารถพัฒนาผู้นำที่ดีเพื่อให้ชุมชนเข้มแข็งได้นั้น เงินทุนสนับสนุนก็เป็นสิ่งที่จำเป็น วันนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่เราได้นำทั้งสองภาคส่วนมาเจอกัน ได้ทำความรู้จักกัน และอาจเกิดความร่วมมือกันผ่านมาตรการของ BOI ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งส่งเสริมความยั่งยืนเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้เติบโตอย่างสมดุลทั้งภาคธุรกิจและสังคม ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่ได้เห็นความร่วมมือจากภาครัฐ และภาคเอกชน ประสานพลังความร่วมมือขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในทุกภาคส่วนอย่างเป็นระบบ

รวมถึงเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการพัฒนาชุมชนและสังคม ภายใต้การสนับสนุนจาก คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อันจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทจดทะเบียนไทย ชุมชน และหน่วยงานเพื่อสังคม ซึ่งสอดคล้องกับแผนงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่กำลังก้าวสู่ปีที่ 50 ในการพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนภายใต้วิสัยทัศน์ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone” พร้อมส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกภาคส่วน เพื่อให้ตลาดทุนเป็นพื้นที่สำหรับอนาคตของทุกคน

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวว่า จากกระแสของโลกและกระแสของการลงทุนที่เปลี่ยนไป เมื่อมาประกอบกับจุดแข็งของประเทศไทยแล้ว บีโอไอจึงเปลี่ยนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนโดยมุ่งสู่เศรษฐกิจใหม่ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศในระยะยาว หรือยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) โดยบีโอไอได้วางเป้าหมายให้บรรลุผล 3 ด้าน ได้แก่ (1) Innovative เป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ (2) Competitive เป็นเศรษฐกิจที่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถปรับตัวเร็ว และสร้างการเติบโตสูง (3) Inclusive เป็นเศรษฐกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมทั้งการสร้างโอกาส และลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ

โดยมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการลงทุนแบบมีส่วนร่วมระหว่างภาคเอกชนกับชุมชน อันจะช่วยสร้างโอกาส และลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศโดยให้สิทธิและประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 200% ของลงทุนที่ภาคเอกชนสนับสนุนองค์กรท้องถิ่น เพื่อเป็นเครื่องมือผลักดันให้บริษัทเอกชนที่มีศักยภาพมีบทบาทในการช่วยพัฒนาชุมชนและสังคมให้มากยิ่งขึ้น

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้

Most Popular

Recent Comments