1win aviatormostbet aviatormostbetluckyget1 win indiamosbetpin upone win gameпинапpin up casino online1win online1 win onlinepin up kzmosbet indiamosbetmostbetaviatormosbetmosbetpinupmosbet aviatorparimatchmosbet india4era betpinap1 win4rabet gamelucky jet online4rabet1win saytiparimatchpin up casino1 win1win lucky jetpin up betlucky jetmostbet casinomostbet1win casinopin up betting4rabet bdlukyjet1win apostalucky jet crashaviator mostbet1 win1win slotpin-up1winmostbet azmostbet az
วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 9, 2024
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้
หน้าแรกข่าวเศรษฐกิจกรุ๊ปบริษัทบางจากขยายโครงข่ายร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ

กรุ๊ปบริษัทบางจากขยายโครงข่ายร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ

วิลลา คุณาลัย – ยูซีโอ เอสดีจี เซ็นชื่อกติกาความร่วมแรงร่วมมือรับซื้อน้ำมันที่ใช้ในการปรุงอาหารใช้แล้ว ส่งที่ปรึกษาความงามสจีเอฟเพื่อผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานจีรังยั่งยืน SAF เป็นรายแรกในประเทศไทย

ผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานจีรังยั่งยืน SAF เป็นรายแรกในประเทศไทย

กรุ๊ปบริษัทบางจากขยายโครงข่ายร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ

พิธีการเซ็นชื่อบันทึกกติกาความร่วมแรงร่วมใจเปลี่ยนวิชาความรู้

เมื่อเร็วๆนี้ นายธรรมรัตน์ วงศ์ตระกูลสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รวมทั้งประธานกรรมการบริษัท ที่ปรึกษาความงามสจีเอฟ ข่าวเศรษฐกิจ

สายงานบริหารโครงงาน วิศวกรรมและก็โลจิสติกส์ รวมทั้งประธานรวมทั้งพนักงานบริษัท ที่ปรึกษาความงามสจีเอฟ จำกัด ร่วมเป็นเกียรติใน   พิธีการเซ็นชื่อบันทึกกติกาความร่วมแรงร่วมใจเปลี่ยนวิชาความรู้ ด้านความยืนยงแล้วก็สภาพแวดล้อมสำหรับเพื่อการรณรงค์เพื่อหยุดปัญหาขยะที่เสื่อมสภาพมิได้ ระหว่าง บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) แล้วก็บริษัท ยูซีโอ เอสดีจี จำกัด (ซึ่งเป็นคู่ค้าของบริษัท ธนโชคฯ)

โดยอีกทั้ง 2 บริษัทได้ตกลงกันส่งน้ำมันทำกับข้าวใช้แล้วที่เก็บรวบรวมจากหมู่บ้านจัดสรรของคุณาลัย รวมแทบ 3,800 ยูนิต เพื่อขายให้กับบริษัท   ธนโชคน้ำมันพืช (2012) จำกัด แล้วก็ บริษัท ที่ปรึกษาความงามสจีเอฟ จำกัด บริษัทในกรุ๊ปบริษัทบางจาก นำไปผลิตเป็นน้ำมันอากาศยานยืนนาน (Sustainable Aviation Fuel) หรือ SAF โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตไปสู่การใช้เชิงการค้าได้ในตอนต้นปี 2568

แล้วก็บริษัทฯ ให้ความใส่ใจกับการพัฒนาธุรกิจคาร์บอนต่ำเพื่อความคงทน ที่สะท้อนให้มีความคิดเห็นว่าทุกการเจริญเติบโตของกรุ๊ปบริษัทบางจากยังคงรักษาความสมดุลของราคาและก็ค่า   การเข้าถึงและก็ความยั่งยืนและมั่นคงทางด้านพลังงานไปพร้อมๆกับการขับเขยื้อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อประสบผลสำเร็จการปลดปล่อยแก๊สปรากฏการณ์เรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของบริษัทฯ ในปี 2593

และก็การมีพื้นฐานป้อมปราการคงเดิมเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการผสมผสานประโยช์จากธุรกิจด้วยการ synergy ระหว่างกัน ซึ่งนอกเหนือจากการที่จะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นการสร้าง ลดทุน ให้กำเนิดความคุ้มราคาทางเศรษฐวิทยาแล้ว   ยังเป็นการเสริมค่าสู่สังคมแล้วก็สภาพแวดล้อม มอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ ชุมชน สังคมได้ใช้ผลิตภัณฑ์รวมทั้งบริการที่ดีต่อสภาพสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของประเทศแล้วก็สังคมโลกสำหรับการมุ่งสู่การปลดปล่อยแก๊สปรากฏการณ์เรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อร่วมต่อกรกับภาวการณ์โลกเดือดซึ่งเป็นวิกฤตเร่งด่วนในสุดยอด

กรุ๊ปบริษัทบางจากขยายโครงข่ายร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ

หลักเศรษฐกิจเวียน มุ่งใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า

บันทึกกติกาความร่วมแรงร่วมใจนี้ เป็นความร่วมมือที่สำคัญที่สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจเวียน มุ่งใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า และก็นำกลับมาใช้ประโยชน์อย่างยิ่งสุด เพื่อการเจริญเติบโตร่วมกับกับสังคมอย่างยั่งยืน รวมทั้งนับเป็นการต่อยอดการพัฒนาแผนการบ้านสำหรับชีวิตรูปแบบใหม่กับความเอาจริงเอาจังที่จะ ‘สร้างพื้นที่ สร้างความสบาย’ ให้มีความมั่นคงยั่งยืนเพื่ออนาคตที่ดีมากกว่า ของบริษัท วิลล่า คุณาลัย

รวมทั้งบริษัทยูซีโอฯ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาที่จีรังยั่งยืน ตัดปัญหาขยะที่เสื่อมสภาพมิได้อย่างน้ำมันที่ใช้ในการทำกับข้าวใช้แล้ว (Used Cooking Oil: UCO) จากครอบครัวหรือที่อยู่อาศัย โดยจะมีการถ่ายทอดความรู้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการจัดการน้ำมันที่ใช้ในการปรุงอาหารใช้แล้ว เพื่อไม่ให้เป็นผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมรวมทั้งชุมชนมุ่งสู่ Green City, Green Village ด้วยกันผ่านโครงงานนำน้ำมันซึ่งใช้ในการนำมาทำอาหารใช้แล้วจากครอบครัวที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรหรือชุมชน

ยิ่งกว่านั้น ยังร่วมเกื้อหนุนให้มีการลงมือปฏิบัติโดยภาคพสกนิกรเพื่อร่วมลดโลกร้อน ด้วยการลดขยะจากต้นทาง ซึ่งเกิดเรื่องใกล้ตัวที่เริ่มได้อย่างง่ายดายจากการจัดการของเสียในชีวิตประจำวัน เพื่อเคลื่อน BCG Economy ผ่านความร่วมแรงร่วมใจกับผู้สนับสนุนที่มากมายเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกกับลูกค้าแล้วก็สามัญชนสำหรับเพื่อการจัดแจงขยะจำพวกต่างๆไม่ว่าจะเป็นการจัดจุดรับหรือจุดเก็บของเสียผ่านโครงข่ายสถานีบริการน้ำมัน ยกตัวอย่างเช่นแผนการ “ทอดไม่ทิ้ง” รับซื้อน้ำมันซึ่งใช้ในการนำมาทำกับข้าวใช้แล้วเพื่อนำไปผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยืนนาน (SAF) โครงงาน “ขยะกำพร้า” ร่วมกับ N15 Technology

ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก แผนการฮาบิโตะ (T77) แล้วก็ที่ทำการแล้วก็โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง โครงงาน “เก็บกล่องก่อสร้างบ้าน เพื่อมูลนิธิสมัครใจสหายพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก” กับ บริษัทเต็ดยี่ห้อ แพ้ค (เมืองไทย) จำกัด เก็บรวบรวมกล่องเครื่องดื่มยูเอชทีเพื่อรีไซเคิล หรือการจัดทำโครงงาน “รักษา ปัน สุข จูเนียร์” แผนการรณรงค์ด้านสภาพแวดล้อมและก็การคัดขยะในระดับสถานที่เรียนโดยมูลนิธิใบไม้ปันสุข ฯลฯ

กรุ๊ปบริษัทบางจากขยายโครงข่ายร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ

กรุ๊ปบริษัทบางจากขยายโครงข่ายร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ เกื้อหนุนการค้าขายคาร์บอนเครดิต

กรุ๊ปบริษัทบางจากร่วมขับสร้างระบบนิเวศคาร์บอนต่ำ สร้างความประจักษ์แจ้งทราบแล้วก็การลงมือปฏิบัติทั้งยังด้านในและก็ข้างนอกหน่วยงานร่วมกับผู้ช่วยเหลือนานาประการ

ทดแทนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ พรีเซนเทชั่นระบบคำนวณแก๊สปรากฏการณ์เรือนกระจกหน่วยงาน เกื้อหนุนการค้าขายคาร์บอนเครดิต รีบการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

นางกลอยตาในถลาง รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความยืนยงรวมทั้งติดต่อหน่วยงาน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และก็ประธาน Carbon Markets Club เผยถึงภารกิจสำหรับในการร่วมสร้างระบบนิเวศคาร์บอนต่ำของกรุ๊ปบริษัทบางจากในปี 2566 เพื่อต่อกรกับสภาวะโลกเดือด ผ่านการขับเขยื้อนงานร่วมกับผู้สนับสนุนเพื่อเตรียมตัวให้ผู้มีส่วนได้เสียทั้งยังด้านในและก็ด้านนอกหน่วยงานมีความรู้และมีความเข้าใจ ความรู้ความเข้าใจ ประสบการณ์

สร้างความประจักษ์แจ้งถึงการจัดการจัดแจงแก๊สปรากฏการณ์เรือนกระจกของประเทศ กลไกคาร์บอน ทั้งยังระบบค้าขาย ระบบภาษี แล้วก็คาร์บอนเครดิต ซึ่งนับได้ว่าเป็นเรื่องใหม่ของสังคมไทยทั้งยังระดับบุคคล ชุมชน SMEs แล้วก็หน่วยงานธุรกิจ โดยปัจจุบันกรุ๊ปบริษัทบางจาก รวมทั้ง Carbon Markets Club ได้ร่วมกับบริษัท ดิ เอราวัณ กลุ่ม จำกัด (มหาชน) จัดโครงงาน “Stay for Santa”

นำร่องทดแทนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผู้เข้าพักโฮเต็ลในเครือ ดิ เอราวัณ กลุ่ม 4 ที่ ในตอนเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 23 ธ.ค. 2566 ถึง 2 ม.ค. 2567 เป็นระยะเวลา 10 คืน รวม 330 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เท่ากัน แล้วก็ทั้งปี 2566 ได้ทดแทนคาร์บอนฟุตพริ้นท์เฉพาะบุคคลและก็กิจกรรมต่างๆรวมราวๆ 3,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เท่ากัน

เป็นการเชื่อมโยงประสบการณ์ให้กับประชากรได้ทราบจะถึงความประพฤติวิธีการสำหรับเลือกซื้อสินค้าที่ลดการปลดปล่อยแก๊สสภาวะเรือนกระจก และก็ช่วยปรับลูกพี่ลูกน้องเกษตรกรมีความภาคภูมิในกรรมวิธีการผลิตสุดที่รักษ์โลก รวมทั้งเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้ส่งเสริมเพื่อขับ “เกาะหมากสู่ทาง Low Carbon Destination” ร่วมถ่ายทอดองค์วิชาความรู้รวมทั้งต่อยอดกิจกรรมตามจุดมุ่งหมาย “เกาะหมากต้นแบบชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ” (The Green Destination Top 100 of the World)

ด้วยการร่วมแรงกับผู้สนับสนุนต่อยอดแผนงานสำคัญ 3 ด้าน ตัวอย่างเช่น 1) การเรียนรู้จำนวนปล่อยแก๊สปรากฏการณ์เรือนกระจกจากกิจการค้าสำคัญ 2) ผลักดันกิจกรรมลดก๊าสปรากฏการณ์เรือนกระจกในชีวิตประจำวัน (การจัดการขยะ การใช้พลังงานสะอาด การขนส่ง อื่นๆอีกมากมาย) 3) แล้วก็การปฏิสังขรณ์-สงวนระบบนิเวศทางบกรวมทั้งทางทะเล (Green and Blue Carbon) เพื่อซับคาร์บอนจากธรรมชาติ

กรุ๊ปบริษัทบางจากขยายโครงข่ายร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ

กรุ๊ปบริษัทบางจากขยายโครงข่ายร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ด้านลดก๊าสสภาวะเรือนกระจก

โดยข้างในหน่วยงาน มีการจัดงานกิจกรรมรณรงค์สม่ำเสมอตลอดทั้งปี ให้บุคลากรมีความประพฤติด้านลดก๊าสสภาวะเรือนกระจก ผ่านการบันทึกความประพฤติด้าน Climate Action ยกตัวอย่างเช่น การลดใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง การคัดขยะไปรีไซเคิล การใช้บริการรถยนต์สาธารณะ หรือใช้ไฟฟ้าน้อยลงในครอบครัว ฯลฯ

สำหรับข้างนอกหน่วยงาน สำคัญๆเป็นการดำเนินการผ่าน Carbon Markets Club ร่วมกับผู้ช่วยเหลือธุรกิจที่ร่วมจัดตั้งขึ้น รวม 11 ที่เมื่อปี 2564 และก็หน่วยงานสมาชิก รวมทั้งผู้ส่งเสริมอื่นๆโดยจัดการตลอดเป็นปีที่ 3 รวมทั้งได้ผลลัพธ์ อย่างเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรม อีกทั้งการให้ความรู้ความเข้าใจ ความรู้ความเข้าใจ เปลี่ยนข้อมูล โดยในปลายปี 2566 มีสมาชิกกว่า 750 ราย ทั้งยังชนิดบุคคลแล้วก็หน่วยงาน

มีการค้าขายคาร์บอนเครดิต TVERs รวมทั้งใบสุทธิสิทธิสำหรับการเป็นผู้สร้างกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนวน RECs ผ่าน Marketplace ในเว็บของ Carbon Markets Club รวมแทบ 480,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เสมอกันรวมทั้ง RECs รวมกว่า 1.6 ล้านหน่วย คิดเป็นการปลูกต้นไม้เสมอกันกว่า 150 ล้านต้น พร้อมกับได้ปรับปรุงระบบแล้วก็เปิดให้สมาชิกตรวจสอบและลองใช้ระบบการคำนวณแก๊สสภาวะเรือนกระจกหน่วยงาน หรือ Carbon Footprint Tracking for Organization (CFO) ซึ่งเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ปรับปรุงระบบการคำนวณมาจากมาตรฐาน ISO14064 โดยไม่ต้องจ่ายเงินอีกด้วย

กรุ๊ปบริษัทบางจากขยายโครงข่ายร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ งานการประชุมรายปี Greenovative Forum

ขณะเดียวกันนี้ ได้จัดให้มีการทดแทนคาร์บอนฟุตพริ้นท์รายตัวกับประธานระดับผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ขึ้นไป กว่า 20 คนเป็น “กรุ๊ปประธานไม่มีคาร์บอน” ตั้งแต่ปี 2565 รวมทั้งการทดแทนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้กับ 3 นักแบดมินตัน สุดยอดจากสถานที่เรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด “ทิวทัศน์” กุลวุฒิ ผู้รู้ศานต์ “เมย์” รัชนก อินทนนท์ “จิว” ลลินรัศฐ์ ไชยชาติชั้นวรรณะ แล้วก็ร่วมทดแทนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในกิจกรรมชนิดต่างๆที่มีผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น การสัมมนาสามัญผู้ถือหุ้นรายปีของบริษัทในกรุ๊ปบริษัทบางจาก

งานการประชุมรายปี Greenovative Forum การเป็นเจ้าภาพร่วมงานวิ่งโอลิมปิก Olympic Day Run ในจังหวัดน่าน จังหวัดมุกดาหารและก็จังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งทดแทนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้กับการจัดงานและก็นักเดินทางที่มาร่วมงานสีสันที่ภูเขาตุงครั้งที่ 10 (ดอกไม้ระบายภูเขา: Palette of Flowers)ในโครงงานปรับปรุงภูเขาตุง (พื้นที่ทรงงาน) จังหวัด จังหวัดเชียงราย แล้วก็ปัจจุบัน ได้ร่วมจัดโครงงาน Stay for Santa

กับโฮเต็ล 4 ที่ในเครือเอราวัณ กลุ่ม ทดแทนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผู้เข้าพักระหว่างวันที่ 23 เดือนธันวาคม 2566 ถึง 2 เดือนมกราคม 2567 เป็นระยะเวลา 10 คืน รวม 330 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เสมอกัน ทำให้ตลอดทั้งปี 2566 กรุ๊ปบริษัทบางจาก รวมทั้ง Carbon Markets Club ได้ทดแทนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้กับบุคคลแล้วก็งานอีเว้นท์กับผู้ส่งเสริมต่างๆรวมราว 3,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เท่ากัน

บริษัทฯ มีส่วนร่วมสร้างความเข้าใจทราบเกี่ยวกับสภาพการณ์วิกฤตทางสภาพอากาศรวมทั้งจุดสำคัญของสังคมคาร์บอนต่ำ ผ่านกิจกรรมเผยแพร่วิชาความรู้นานัปการแบบอย่าง อีกทั้งการประชุมสัมมนา การรับเชิญเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้กับการสัมมนาของหน่วยงานผู้ส่งเสริมแล้วก็เวทีสาธารณะ การเปิดเผยแพร่บทความผ่านเว็บของ Carbon Markets Club รวมทั้งความร่วมแรงร่วมมือต่างๆกับผู้มีส่วนได้เสียทางธุรกิจของบริษัทฯ

ดังเช่น “โครงข่ายสหกรณ์ลดโลกร้อน” โดยบริษัท ออมสุข วิสาหกิจเพื่อสังคม ร่วมกับสหกรณ์การกสิกรรมจัดตั้งโซลาร์เซลล์แล้วก็ปรับปรุงโครงงานคาร์บอนเครดิตจากพลังงานเวียน คาดการณ์จัดตั้งรวม 1.7 เมกะวัตต์ “ข้าวลดโลกร้อน” เกื้อหนุนสมาชิกเกษตรกรรักษาโลกจากวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่เกษตรยุคใหม่

อำเภอเดิมบางนางบประมาณวช จังหวัดสุพรรณ นำข้าวลดโลกร้อนกว่า 40 ตัน มาเป็นผลิตภัณฑ์ผลักดันวิธีขายที่สถานีบริการน้ำมันบางจากที่ร่วมรายการในตอนวันสภาพแวดล้อมโลกเพื่อความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกข้าวแบบแฉะสลับแห้งที่สามารถจะช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซมีเทน หนึ่งในแก๊สสภาวะเรือนกระจกที่เป็นต้นเหตุของสภาวะโลกร้อน

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้

Most Popular

Recent Comments