1win aviatormostbet aviatormostbetluckyget1 win indiamosbetpin upone win gameпинапpin up casino online1win online1 win onlinepin up kzmosbet indiamosbetmostbetaviatormosbetmosbetpinupmosbet aviatorparimatchmosbet india4era betpinap1 win4rabet gamelucky jet online4rabet1win saytiparimatchpin up casino1 win1win lucky jetpin up betlucky jetmostbet casinomostbet1win casinopin up betting4rabet bdlukyjet1win apostalucky jet crashaviator mostbet1 win1win slotpin-up1winmostbet azmostbet az
วันศุกร์, กรกฎาคม 19, 2024
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้
หน้าแรกท่องเที่ยวTISCO กำไรไตรมาสแรกหดตัว 3.3% เหลือ 1.7 พันล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมแผ่ว

TISCO กำไรไตรมาสแรกหดตัว 3.3% เหลือ 1.7 พันล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมแผ่ว

ทิสโก้ กรุ๊ป (TISCO) เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567 กำไรสุทธิ 1,733 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อนหน้า ลดลง 3.3% ปัจจัยหลักมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักที่ชะลอตัว

กลุ่มทิสโก้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2567 ว่า มีกำไรสุทธิ 1,733 ล้านบาท ลดลง 3.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในธุรกิจหลักที่ชะลอตัว

รายได้ค่าธรรมเนียมหดตัว

รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์ได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดทุนที่ยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมหดตัวลง ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่ลดลงตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ที่ชะลอตัวตามยอดขายรถยนต์ในประเทศ

นอกจากนี้ ต้นทุนทางการเงินของทิสโก้ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปรับลดลง และคาดว่าจะส่งผลต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม TISCO ยังมีจุดแข็งในด้านฐานลูกค้าที่กว้างขวาง ประสบการณ์อันยาวนาน และความเชี่ยวชาญในธุรกิจ ประกอบกับทางกลุ่มยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจ High yield ควบคู่ไปกับการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด คาดว่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากปัจจัยภายนอกได้บ้าง

TISCO กำไรไตรมาสแรกหดตัว 3.3%

ในส่วนของสินเชื่อรวม ขยายตัวเล็กน้อย เพียง 0.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักมาจากการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อ SME และสินเชื่อรายย่อยในกลุ่มให้ผลตอบแทนสูง โดยเฉพาะ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ “สมหวัง เงินสั่งได้”

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ เพิ่มความรอบคอบและระมัดระวังในการอนุมัติสินเชื่อ มากขึ้น ควบคู่ไปกับการติดตามและดูแลลูกหนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงและรักษาคุณภาพสินเชื่อให้ดีที่สุด

ท่ามกลางปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เปราะบาง ราวกับฟองสบู่อันเปราะบาง พร้อมจะแตกสลายเมื่อถูกกระทบเพียงเล็กน้อย สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์หนี้สินของภาคครัวเรือนไทยที่ยังน่ากังวล และคุณภาพลูกหนี้ที่อ่อนตัวลง ราวกับต้นไม้ที่ถูกปลูกบนดินทราย ไร้ซึ่งรากฐานที่มั่นคง สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ที่ลดลง บริษัทจึงตัดสินใจเพิ่มระดับการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss – ECL) มาอยู่ที่ 0.5% ของสินเชื่อเฉลี่ย ราวกับการเสริมเกราะป้องกันให้กับเรือที่ล่องอยู่ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เปรียบเสมือนการเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงของลูกหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น

TISCO กำไรไตรมาสแรกหดตัว 3.3%

ในอนาคต ทิสโก้ (TISCO) มุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจในทุกแง่มุมอย่างต่อเนื่อง บนเส้นทางแห่งการเติบโตที่ยั่งยืนและรับผิดชอบ ซึ่งกลุ่มทิสโก้ให้ความสำคัญกับหลักการสำคัญ 3 ประการดังต่อไปนี้

  1. การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ: ทิสโก้ มุ่งมั่นที่จะรักษาความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้และภาระหนี้ของลูกค้าเสมอ โดยใช้เครื่องมือและกลยุทธ์ที่ทันสมัยเพื่อวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าทุกท่านสามารถบริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
  2. การให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด: ทิสโก้ มุ่งมั่นที่จะให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างมืออาชีพแก่ลูกค้าทุกท่าน โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์และเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี ทิสโก้ มุ่งมั่นที่จะช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางการเงินและสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
  3. การเติบโตอย่างรับผิดชอบ: ทิสโก้ มุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทิสโก้ มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ทิสโก้มั่นใจว่าด้วยหลักการสำคัญ 3 ประการนี้ ทิสโก้ จะสามารถบรรลุเป้าหมายในการเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพและสร้างคุณค่าให้กับสังคม

ทิสโก้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะขยายตัวได้ที่ระดับ 3% ซึ่งปรับลดลงจากประมาณการก่อนหน้านี้ที่คาดไว้ 3.5% การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีนี้มีลักษณะเป็นแบบ “ต้นร้าย ปลายดี” หมายความว่า เศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปีจะยังคงเติบโตช้า แต่จะค่อยๆ เร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี

เศรษฐกิจไทยในปี 2567 มีแนวโน้มฟื้นตัวแบบ “ต้นร้าย ปลายดี” โดยปัจจัยสำคัญที่หนุนเศรษฐกิจ ได้แก่ ภาคการท่องเที่ยว การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ และภาคการส่งออกสินค้า อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตามทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ

ติดตาม ข่าวท่องเที่ยว ได้ที่นี่

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -
ติดตั้ง เดลิเวอรี่ แอป ได้แล้ววันนี้

Most Popular

Recent Comments