นายกรัฐมนตรี เปิดเผยกลุ้มอกกลุ้มใจ สารภาพมิได้จำนวนค่าแรงเริ่มต้น ชี้เป็นแนวนโยบายหลักรัฐบาลจำต้องถูกยกฐานะขึ้น พร้อมคุยด้วยเหตุผล เศรษฐากังวลใจบอกเห็นด้วยควรได้ค่าจ้างเพิ่มขึ้น บอกวันนี้ขนรัฐมนตรีมารับฟังเสียงสะท้อนกลับ พร้อมดำเนินการเต็มกำลัง
นายกรัฐมนตรีกลุ้มอกกลุ้มใจเรื่องค่าแรงเริ่มต้น
นายกรัฐมนตรีมาถึงได้เดินทักราษฎร
เมื่อนายกรัฐมนตรีมาถึงได้เดินทักราษฎรที่มาให้กำลังใจรวมทั้งมอบกุหลาบให้ หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชากรว่า ยินดีมากมายที่ได้กลับมาจังหวัดกาญจนบุรีอีกที ภายหลังการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว ดังนี้ตลอดเวลาราว 3 เดือนซึ่งจะครบมะรืนนี้ที่รัฐบาลเข้ามาบริหาร พบว่าประเทศพวกเรามีปัญหาเยอะแยะ ข่าวการเมือง
แม้กระนั้นพวกเรามีรัฐมนตรีและก็คณะทำงานที่พร้อมจะรับใช้สามัญชนอย่างมากเสียงสะท้อนกลับ เสียงเรียกร้อง เสียงอ้อนวอนในระหว่างที่มาลงคะแนน ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนที่มาตรงนี้เสียงก็เป็นเช่นเดียวกันหมดเป็นเรื่องของชีวิต เรื่องปัญหาหนี้ ปัญหาสารเสพติด พื้นที่ทำรับประทาน ราคาเกษตร การขายระหว่างเขตแดนทั้งหลายแหล่ รัฐบาลนี้มิได้นิ่งเฉย
วาระแห่งชาติหนี้สินนอกระบบจำเป็นต้องหมดไป
นายกรัฐมนตรี พูดว่า เรื่องของหนี้ ตนและก็ นายสมุดบันทึก ชาญวีรกูล รองนายกฯและก็ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกาศเป็นวาระแห่งชาติหนี้สินนอกระบบจำเป็นต้องหมดไป จะเป็นการทำงานด้วยกันอย่างบูรณาการ มีการเซ็ตแผนการที่กระจ่างระหว่างนายอำเภอกับผู้กำกับทุกจังหวัด เมื่อมีเสียงเรียกร้องหรือมีปัญหากับการเช็ดกเรียกทวงหนี้อย่างไม่ยุติธรรม
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มจักรยานยนต์ หมวกกันน็อค ออนไลน์ หรือการข่มขู่ทำให้กลัวข้าราชการ พวกเราทุกคนพร้อมที่จะให้บริการกับพ่อแม่พี่น้อง เพราะฉะนั้นอย่ากลัว ให้เดินออกมาสนทนากัน รัฐบาลให้ความยุติธรรมและก็ปกป้องเจ้าหนี้รวมทั้งลูกหนี้ที่ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างควรต้องถูกเป็นไปตามข้อบังคับ ชาติบ้านเมืองมีขื่อมีแปล พวกเราปฏิเสธการขูดรีดที่ผิดจำเป็นต้องและไม่เป็นกลาง หัวข้อนี้รัฐบาลให้ความใส่ใจสูงสุด
โรงงานรถยนต์กระแสไฟฟ้าหรือ EV
นักข่าวถามคำถามว่า แม้มีการปรับมากขึ้นจำนวนไม่น้อยอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการย้ายฐานผลิตออกมาจากเมืองไทย นายกรัฐมนตรี พูดว่า ไม่มีหรอก อันนี้เป็นผู้ประโคมรรม ไม่มีผู้ใดย้ายเนื่องจากค่าจ้างขึ้น จาก 300 เป็น 400 บาทไม่มีหรอก รัฐบาลยังมี
มาตรการสนับสนุนด้านภาษี มีระบบระเบียบสาธารณสุขที่ดี โรงเรียนดีแล้ว องค์ประกอบเบื้องต้นแล้วก็ท่าอากาศยานดีแล้ว ท่าเรือน้ำลึกก็มี ที่ตัวเองเดินทางไปต่างถิ่นก็ได้เซ็น MOU กับหลายบริษัทใหญ่ๆทั้งยังโรงงานรถยนต์กระแสไฟฟ้าหรือ EV ถ้าเกิดผู้ประกอบธุรกิจไม่ช่วยเหลือกันก็ไปทุกข์ยากลำบาก
นายกรัฐมนตรี บอกว่า ส่วนเรื่องปัญหาสิ่งเสพติด พวกเรามากล่าวกันที่นี่ไปแล้วเมื่อตอนลงคะแนนเสียงว่าคือปัญหาที่กัดก่อนสังคมไทยมานานมาก เรื่องของวงจรการค้าขายสารเสพติด ไม่ว่าจะจากชายแดน พวกเราได้มีการบริหารจัดแจงโดยตั้งเจ้าหน้าที่รัฐระดับค่อนข้างสูงเข้ามาจัดแจงติดต่อประสานงานกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในอาณาจักร ข้างความมั่นคงยั่งยืน ตำรวจ
และก็พื้นที่ ซึ่งพวกเราให้ความใส่ใจสูงสุด เรื่องยาม้าเกิดเรื่องใหญ่ที่สุด หัวข้อการ ทำลายแต่ก่อนใช้เวลานาน แม้กระนั้นครั้งนี้เร่งรัดวงจรสำหรับในการทำลาย จับได้พิสูจน์รู้ทำลายในทันทีเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยของสังคม
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ประเด็นการค้าการลงทุนยกฐานะชีวิตความเป็นอยู่ของญาติพี่น้องเป็นที่ปรากฏชัดดีรัฐบาลนี้ดำเนินการอย่างเข้มแข็ง มีการเดินทางไปต่างแดน ไปเปิดการค้าขายระหว่างชาติ ดึงนักลงทุนจากต่างแดนเข้ามาเพื่อยกฐานะการดำรงชีวิตพ่อแม่พี่น้องประชาชน ทำให้ภาคอุตสาหกรรมไทยแข็งแกร่งขึ้น
“มีเรื่องมีราวที่ทำให้ผมกังวลใจเป็นเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ มั่นใจว่าญาติพี่น้องหลายท่านเป็นห่วงอยู่นี้ โดยความเห็นโดยส่วนตัวรวมทั้งนับว่าเป็นแนวนโยบายหลักของรัฐบาลนี้ในเรื่องค่าแรงเริ่มต้นควรต้องถูกยกฐานะขึ้นมา พวกเราเห็นด้วยมิได้ที่มีการประกาศกัน สักครู่คงจะต้องมีการคุยกันในเวทีที่สมควร โดยคิดด้วยเหตุผลคุยกันที่ตรงนี้ เกิดเรื่องที่พวกเราเห็นด้วยมิได้แล้วก็จำต้องปรับปรุงแก้ไขกันถัดไป”นายเศรษฐา กล่าว
เศรษฐากังวลใจบอกเห็นด้วยควรได้ค่าจ้างเพิ่มขึ้น ฟังเสวนาปัญหาที่ลูกพี่ลูกน้องทุกคนมีอยู่วันนี้
นายเศรษฐา กล่าวเพราะ วันนี้นับว่าเป็นจังหวะดีที่ภายหลังการเลือกตั้งยังไม่มีรัฐมนตรีหรือนายกฯมาเยี่ยมที่จังหวัดกาญจนบุรีเลย ก็เลยนับว่าเป็นมิติใหม่ภายหลังจากได้รับความเชื่อมั่นจากญาติให้เข้ามาบริหาร และก็เดินทางมารับฟังเสวนาปัญหาที่ลูกพี่ลูกน้องทุกคนมีอยู่วันนี้พร้อมมีรัฐมนตรีมาหลายท่าน ฝากการติดต่อสื่อสารเข้ามาเพราะอยากที่จะให้พวกเราทำอะไรบ้าง ขอให้ความเชื่อมั่นและมั่นใจว่ารัฐบาลนี้พร้อมและก็ดำเนินงานอย่างมาก
ผู้รายงานข่าวถามคำถามว่า รัฐบาลจะมานะทำให้ได้ถึง 400 บาทตามแผนการที่รัฐบาลได้ประกาศไว้หรือไม นายกรัฐมนตรี บอกว่า จำเป็นต้องมองตามสมควร ในจังหวัดใหญ่บางครั้งอาจจะได้ถึง 400 แม้กระนั้นจังหวัดเล็กบางทีอาจจะไม่ถึง จะต้องมองความเหมาะสม ขอย้ำว่าสิ่งต่างๆที่รัฐบาลมานะทำเพื่อ ผู้ว่าจ้างสามารถส่งสินค้าออกไปได้แล้วก็ยังอำนวยความสะดวก เพื่อทุ่นค่าใช้จ่าย ให้ผู้ประกอบธุรกิจ รัฐบาลให้ความเอาใจใส่กับประเด็นนี้แล้วก็
ประกาศแจ่มแจ้งว่าไม่เห็นพ้อง ขอให้ผู้ใช้แรงงาน มองพฤติกรรม ว่าตัวเองมีความบริสุทธิ์ใจแค่ไหนยังไง การที่ตัวเองไปบอกที่หอการค้าไทย ขอให้ฟังมองว่าเขาดีอกดีใจไหมที่รัฐบาลขับเศรษฐกิจ เหมือนกับที่ประชุมอุตสาหกรรม รัฐบาลมานะสร้างความแน่ใจให้ต่างประเทศเข้ามาลงทุน และก็เข้ามาอยู่ในประเทศไทยง่ายรวมทั้งไม่เป็นอันตรายขึ้น ทั้งสิ้นเพื่อสร้างความแน่ใจ
เศรษฐากังวลใจบอกเห็นด้วยควรได้ค่าจ้างเพิ่มขึ้น เรื่องค่าจ้างขั้นต่ำเป็นแนวทางหลักของรัฐบาล
เว็บรัฐบาลไทย กล่าวว่าในอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์ถึงกรณี คณะกรรมการสนธิสัญญาไตรภาคี ลงความเห็นปรับขึ้นค่าแรงอย่างน้อยทั่วทั้งประเทศ 2-16 บาท ว่า ค่าจ้างเริ่มต้นของพวกเรามิได้ขึ้นมาเป็นเวลานานมาก เวลาที่ค่ายังชีพสูงมากขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน โดยรัฐบาลบากบั่นทำหลายแนวทาง ที่จะให้ทุ่นค่าใช้จ่าย อีกทั้งค่าไฟ ค่าน้ำประปามัน
พักหนี้สินเกษตรกร รวมทั้งอีกหลายแบบเพื่อช่วยเหลือทุเลา ความทุกข์ทรมานของราษฎร รวมถึงการปรับแต่งหนี้สินนอกระบบรวมทั้งหนี้สินในระบบ รัฐบาลอุตสาหะทำอยู่เพื่อทุ่นค่าใช้จ่าย ในช่วงเวลาที่เรื่องเกี่ยวกับการเพิ่มรายได้ก็สำคัญ โดยราษฎรหลายสิบล้านคน จะต้องพึ่งค่าจ้างเริ่มต้นจำนวนไม่น้อย บางจังหวัด ขึ้นเพียงแค่ 7-12 บาทเพียงแค่นั้น ซึ่งไม่เพียงพอ ทั้งๆที่ รัฐบาลบากบั่นที่จะยกฐานะ ให้เมืองไทยมีอุตสาหกรรมไฮเทค สามัญชนมีรายได้สูงมากขึ้น
ผู้รายงานข่าวถามคำถามว่า ในพื้นที่3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มิได้รับการปรับขึ้นมานาน แต่ว่าช่วงนี้ปรับเพียงแต่ 2 บาท จะมีการพินิจพิเคราะห์ใหม่ไหม นายกรัฐมนตรี บอกว่า ตัวเองก็คิดอย่างงั้นแบบเดียวกัน เมื่ออาทิตย์ก่อนหน้านี้ ได้คุยกับนายกฯมาเลเซีย เรื่องนิคมอุตสาหกรรม การพัฒนาท่องเที่ยว การเปิดด่านสะเดา มีการลงทุนสร้างสะพานไปยังมาเลเซีย สิ่งพวกนี้เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบกิจการ
แม้กระนั้นไม่รู้เรื่องว่าเพราะเหตุใด ถึงขึ้นเพียงแค่ 2-3 บาท สารภาพว่าตนไม่ค่อยสบายใจ ถึงต้องการใช้เวทีนี้ติดต่อ ไปถึง รวมทั้งขอความยุติธรรมให้กับลูกพี่ลูกน้องแรงงาน ไม่เช่นนั้นจะชิดกับรายได้ต่ำ จำต้องคุยอีกทั้งกับสนธิสัญญาไตรภาคี รวมทั้งในคณะรัฐมนตรีเพราะว่าเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำเป็นแนวทางหลักของรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี บอกว่า ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาตัวเองเดินทางไปต่างถิ่นเพื่อจะดึงบริษัทใหญ่มาลงทุนในไทย ไปเปิดตลาดค้าขายใหม่ในต่างชาติ ที่ไทยยังไม่มีข้อสัญญาเชิงพาณิชย์ สิ่งกลุ่มนี้รัฐบาลเพียรพยายามทำอย่างเต็มเปี่ยมแม้กระนั้นผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้ว่าจ้าง จำต้องขอขอร้องรวมทั้งขอขอความช่วยเหลือว่า ญาติแรงงาน เป็นคนที่ได้รับผลพวงเยอะที่สุด เมื่อมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลเพียรพยายามทำทุกทางเพื่อช่วยเหลือ แม้กระนั้นการขึ้นรายได้ผู้ประกอบกิจการจะต้องมานะทำ ไม่ใช่มากมายดค่าแรง แล้วผู้ว่าจ้างมิได้ปรับปรุงธุรกิจของตน
ผู้ประกอบธุรกิจจำต้องปรับปรุงตนเอง เนื่องจากว่าปัจจุบันนี้ผู้ว่าจ้างก็ได้คุณประโยชน์ จากการลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปามันแล้วก็อีกหลายสิ่งหลายอย่าง ตามมาตรการของรัฐบาล วันนี้จะยินยอมให้แรงงานสามัญชนคนประเทศไทย ต่ำติดดินอย่างนี้ เวลาที่ประเทศที่ใกล้เคียงกับไทย ดังเช่นว่า ประเทศเกาหลี และก็ประเทศสิงคโปร์ค่าจ้างขั้นต่ำต่อวัน 1,000 บาท พวกเราจะยินยอมให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนของพวกเราเป็นราษฎรชั้น 2 ชั้น 3 ของโลกหรือ ในเมื่อค่าจ้างขั้นต่ำติดดินขนาดนี้ เมื่อรัฐบาลมานะยกฐานะภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งผู้ประกอบธุรกิจ ก็ควรที่จะต้องทำไปพร้อมเพียงกัน หากทำเพียงแค่ข้าง เดียวไม่มีทางเป็นไปได้
ผู้รายงานข่าวถามคำถามว่าในเรื่องค่าจ้างจะได้โอกาสทวนใหม่ไหม นายกรัฐมนตรี พูดว่า จะต้องขอทวนใหม่ จึงควรไปพินิจพิเคราะห์มองถึงวิถีทางความเหมาะสมเนื่องจากพึ่งรู้ข่าวสารหัวข้อนี้ แม้กระนั้นอาจไม่ใช่การสั่ง แต่ว่าเป็นการคุยด้วยกัน พวกเราจำเป็นต้องเอ๋ยถึงองค์รวมของเศรษฐกิจ
รวมทั้งแนวทางการทำธุรกิจ ไม่ใช่แค่ขึ้นรายจ่ายให้ผู้ประกอบกิจการหรือเจ้านายสิ่งเดียว แม้กระนั้นยังมีการเพิ่มรายได้เปิดตลาดที่มากขึ้น ก่อนหน้าที่ผ่านมาผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้ว่าจ้างก็ได้ผลดีไปแล้ว ถึงเวลาจะต้องคืนให้กับผู้ที่เป็นอย่างยิ่งสำคัญ ในภาคผลิตด้วยหรือไม่ พอเพียงพ้นจากวันหยุดก็จะมีการเรียกคุยกับผู้เกี่ยวข้อง มั่นใจว่าประเด็นนี้ทุกคนมีความไม่สบายใจหมด ขอให้นึกถึงจิตใจเขาจิตใจพวกเรา
นายกรัฐมนตรี ย้ำ จำต้องดูแลราษฎร 60 ล้านคน ไม่ใช่ดูแลเพียงแค่มาเอาคะแนนเสียง กับผู้ใช้แรงงานสิ่งเดียว แต่ว่านายแล้วก็ผู้ประกอบธุรกิจ ก็ไปฟังข้อคิดเห็นตลอด รวมทั้งพร้อมจะช่วยเหลือ สิ่งกลุ่มนี้ค่อนข้างจะเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมอยู่แล้ว