เปิดมติบอร์ดเปลี่ยนแปลงที่ดิน ตั้งตรวจทานเกษตรกรถือโฉนด

สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ทุกรายทุกแปลง เปิดมติบอร์ดเปลี่ยนแปลงที่ดิน ธรรมนัส รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯ เป็นประธาน มีมคิตั้งแผนกอนุกรรมการตรวจตราเกษตรกรโฉนด เปิดมติบอร์ดเปลี่ยนแปลงที่ดิน ตั้งตรวจทานเกษตรกรถือโฉนด สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมแล้ว 3.6 หมื่นไร่ ทำศึกกับที่ดินหยาบคายในเขตเปลี่ยนแปลงที่ดินทั้งประเทศ เจอกระทำผิด สั่งสิ้นสิทธิในทันที พร้อมไฟเขียว งบประมาณฯ 4 พันล้าน

สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

ห้องประชุมอนุมัติวงเงินเพื่อปฏิบัติการแผนการ

วันที่ 8 เดือนมีนาคม 2567 ร้อยเอกธรรมนัส พระพรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รัฐมนตรีว่าการกษ.) เป็นประธานการสัมมนาคณะกรรมการปฏิวัติที่ดินเพื่อทำการเกษตร (คปก.) ครั้งที่ 2/2567 ในวันที่ 8 มี.ค. 2567ในห้องที่ใช้สำหรับการประชุมไชยยงค์ ยกชาติ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ถนนหนทางราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร โดยห้องประชุมอนุมัติวงเงินเพื่อปฏิบัติการแผนการและก็แผนงานต่างๆกว่า 4,085.578 ล้านบาท ข่าวเศรษฐกิจ

ห้องประชุมลงความเห็นการตรวจตราเกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินรวมทั้งผู้ครองที่ดินในเขตเปลี่ยนแปลงที่ดิน โดย 1) ให้ทำรายนามผู้ได้รับการจัดที่ดินทุกราย ปิดประกาศในเขตที่ดินที่ตั้งอยู่ในท้องที่นั้น เพื่อพลเมืองเอาไปใช้วิเคราะห์

2) มีการตั้งคณะทำงานวิเคราะห์ผู้ได้รับการจัดที่ดินแล้วก็ผู้ถือสิทธิ์ที่ดินในเขตปฏิวัติที่ดิน

3) แต่งแผนกอนุกรรมการ พินิจพิเคราะห์ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินรวมทั้งใช้ประโยชน์ในที่ดินโดยไม่ถูกต้อง โดยมีอำนาจหน้าที่พิเคราะห์มีความเห็น รวมทั้งส่งให้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตรึกตรองความผิดพลาด แล้วก็มอบหมายให้ดำเนินงานถัดไป โดยส่วนประกอบภาควิชาอนุกรรมการ มี สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม, ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน, ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด, ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ผู้อำนวยการสำนักข้อบังคับ แล้วก็ผู้อำนวยการกรุ๊ปคดี

ตรวจทานที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมทุกราย ทุกแปลง

อีกทั้งได้อนุมัติโครงงานสำรวจที่ดินในเขตเปลี่ยนแปลงที่ดิน เพื่อตรวจตราที่ดินในเขตปรับปรุงที่ดินทุกราย ทุกแปลง 36,498,883 ไร่ เพื่อเกษตรกรคนที่ได้รับการจัดสรรที่ดินกระทำตามระเบียบปฏิบัติข้อบังคับของ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม รวมทั้งการปกป้องไม่ให้ใช้ที่ดินไม่ถูกเป้าหมายของการปรับปรุงที่ดิน โดยเป็นงบประมาณฯดำเนินงาน ปริมาณ 5,838,100 บาท

ดังนี้ ห้องประชุมทราบเรื่อง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ปฏิบัติการส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการ ประเด็นการแต่งคณะทำงานไตร่ตรองเส้นเขตการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร กรณีเป็นที่ดินที่ไม่เคยจัดให้แก่บุคคลใดโดยชอบด้วยกฎหมายเกี่ยวกับการปรับปรุงที่ดินเพื่อทำการเกษตร ซึ่งมีบทบาทพินิจพิเคราะห์วิเคราะห์เส้นเขตการถือสิทธิ์ทำประโยชน์ที่ดินที่ทำการการปรับปรุงที่ดินจังหวัด จะออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิวัติที่ดิน โดยให้ไตร่ตรองว่าทับซ้อนหรือรุกล้ำเส้นเขตที่ดินซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานโดยชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวเนื่อง

3 ทางตรวสอบที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า ประเด็นการตรวจดูการถือสิทธิ์ที่ดินในเขตแก้ไขที่ดิน มีอยู่ 3 แบบหมายถึงแบบแรก การตรวจดูสิทธิรวมทั้งการใช้ผลดีที่ดิน ซึ่งใช้ความร่วมแรงร่วมใจระหว่าง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัด คนภายในแคว้น ผู้ดูแลท้องที่ ในต้นแบบแผนกอนุกรรมการตรวจตราที่ดินร่วมใคร่ครวญ

แบบที่ 2 ตรวจทานการใช้คุณประโยชน์ที่ดินโดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศหรือรูปถ่ายดาวเทียมเนื้อหาสูง แล้วก็ชี้จุดมุ่งหมายแปลงที่ดินที่อาจมีการใช้ผลดีในที่ดินไม่ปกติโดยใช้ไอที

รวมทั้งแบบที่ 3 การพิจารณาการครอบครองที่ดิน กรณีเกษตรกรทำผิดระเบียบปฏิบัติหรือบุคคลอื่นครองที่ดินโดยไม่ถูกต้อง รวมทั้งการเจอการกระทำผิดในเขตปฏิวัติที่ดิน ได้แก่ การร้องทุกข์ แจ้งเค้าเงื่อนจากบุคคลหรือหน่วยงานเพื่อปฏิบัติการกับผู้ที่ทำความผิด การรวบรวมหลักฐาน หากกระทำผิดจริงจะสั่งให้สิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในทันที”

ไฟเขียวแผนงาน 5 ปี เปิดมติบอร์ดเปลี่ยนแปลงที่ดิน ตั้งตรวจทานเกษตรกรถือโฉนด

คปก.ยังเห็นดีเห็นงามแผนงานแล้วก็งบประมาณระยะ 5 ปี การทำงานบริหารจัดแจงที่ดินแปลงว่างพื้นที่นำร่อง 9 จังหวัด ปริมาณ 24 แปลง พื้นที่ราว 2,761-3-11 ไร่ ดังเช่นว่า จ.พระนครศรีอยุธยา จังหวัดตรัง สระแก้ว จังหวัดราชบุรี เลย จังหวัดโคราช เพชรบุรี จังหวัดสงขลา แล้วก็จังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้งบประมาณ 243,056,502 บาท

แล้วก็ยังมีการอนุมัติค่าครองชีพสำหรับเพื่อการเกื้อหนุนการแปรเปลี่ยนรูปสมุนไพรด้วยโรงอบพลังงานจากแสงอาทิตย์เงินลงทุนต่ำในเขตปรับปรุงที่ดิน ปริมาณ 5,325,200 บาท รวมทั้งอนุมัติค่าใช้สอยตามโครงงานก่อสร้างถนนหนทางสายซอกซอยผิวจราจรหินคลุกในแปลงทำการเกษตร เกษตรกรที่ประชุมพสกนิกร 4 ภาค จังหวัดเพชรบุรี ปริมาณ 7 สาย ระยะทางรวม 4.605 กิโล ปริมาณ 5,557,000 บาท เพื่อเกษตรกรมีความสบาย ลดช่วงเวลาสำหรับในการขนส่งผลิตผล แล้วก็เพิ่มสมรรถนะของพื้นที่สำหรับในการดำรงชีพทำการเกษตร

เปิดงบประมาณฯปี’68 อีก 3.8 พันล้าน เปิดมติบอร์ดเปลี่ยนแปลงที่ดิน ตั้งตรวจทานเกษตรกรถือโฉนด

นอกจากยังอนุมัติแผนงานรวมทั้งงบประมาณ รายปีงบประมาณ พุทธศักราช 2568 ภายใต้กรอบที่มีความสำคัญในการรบการจัดสรรงบประมาณ วงเงิน 3,825.8017 ล้านบาท ซึ่งเป็นแผนงานและก็แผนการที่นำมาซึ่งคุณประโยชน์ต่อการปฏิบัติการปรับปรุงที่ดิน แล้วก็เกษตรกรในเขตแก้ไขที่ดิน

นายวิณะโรจน์ สินทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม บอกว่า เว้นเสียแต่ห้องประชุมจะอนุมัติค่าใช้สอยในการพัฒนาส่วนประกอบเบื้องต้นรวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรให้มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับแล้วก็เป็นที่เรียกร้องของตลาด ยังเห็นดีเห็นชอบการทำงานบริหารจัดแจงที่ดินแปลงว่าง โดยจะนำร่องใน 9 จังหวัด เพื่อจัดแบ่งให้เกษตรกรที่อยากได้ที่ดินสำหรับทำมาหากิน ก็เลยจำต้องรีบดำเนินงานเคลื่อนงานเพื่อไขปัญหาเกษตรกรที่ยังไม่มีที่ดินสำหรับเพื่อเลี้ยงชีพถัดไป

คปก. เห็นดีเห็นงามวิธีการแปลงที่ดิน

สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 4-01 เป็นโฉนด ข้างหลังครอบครองครบ 5 ปี คปก. เห็นดีเห็นชอบวิธีการแปลงที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 4-01 เป็นโฉนด ข้างหลังถือสิทธิ์ครบ 5 ปี เพื่อเอื้อประโยชน์ให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน และก็ตกถึงมือผู้สืบสกุลสำหรับเพื่อการดำรงชีพทำการเกษตรอย่างยั่งยืน

ร้อยเอก ธรรมนัส พระพรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยคราวหลังเป็นประธานการสัมมนาคณะกรรมการเปลี่ยนแปลงที่ดินเพื่อทำการเกษตร (คปก.) ครั้งที่ 5/2566ในห้องสำหรับประชุมไชยยงค์ ยกชาติ ส.ป.ก. (สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) กรุงเทพมหานคร ว่า ในวันนี้ห้องประชุมลงความเห็นเห็นดีเห็นงามวิธีการปรับแก้เอกสารสิทธิ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

4-01 เพื่อยกฐานะเป็นโฉนดที่ดินเพื่อทำการเกษตร โดยชอบด้วยกฎหมายกล่าวถึงการปรับปรุงที่ดินเพื่อทำการเกษตร ภายใต้หลักเกณฑ์แล้วก็ข้อจำกัดที่สำคัญ เป็นต้นว่า 1) การจัดที่ดินยังคงเป็นไปเพื่อประกอบทำการเกษตรตามประสิทธิภาพของพื้นที่ 2) สามารถเปลี่ยนมือได้ระหว่างเกษตรกรที่มีคุณลักษณะร่วมกันจากที่ข้อบังคับระบุ 3) จำต้องปลูกไม้มีค่าในพื้นที่ตามรูปทรงที่ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ระบุ 4) สามารถใช้รับรองเงินกู้ยืมกับสถาบันการเงินได้ทุกหย่อมหญ้า โดยยิ่งไปกว่านั้นสถาบันการเงินของเมือง 5) จำต้องถือสิทธิ์ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 4-01 แล้วก็ทำประโยชน์มาไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยมีเกษตรกรที่เข้าข้อจำกัด ปริมาณ 1,628,520 ราย เอกสารสิทธิรวม 2,205,561 ฉบับ พื้นที่รวม 22,079,407.67 ไร่ โดย สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จะปฏิบัติภารกิจเป็นนายทะเบียนสำหรับเพื่อการลงทะเบียนสิทธิแล้วก็นิติกรรมต่างๆเพื่อความโปร่งสบายใสและก็สำรวจได้

“กระทรวงเกษตรฯ โดย สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จะมอบโฉนดที่ดินเพื่อทำการเกษตรฉบับแรกให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่เกษตรกรได้ข้างในวันที่ 15 เดือนมกราคม 2567 อย่างไม่ต้องสงสัย รวมทั้งจะทยอยให้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จังหวัดทุกจังหวัดดำเนินงานออกโฉนดให้กับเกษตรกรทุกจังหวัดที่เข้าเกณฑ์หลักเกณฑ์เป็นลำดับ ดังนี้ เพื่อเกษตรกรสามารถนำที่ดินไปใช้ประโยชน์สำหรับในการดำรงชีพทำการเกษตรอย่างแท้จริง สามารถสืบทอดถึงมือผู้สืบสกุล และก็เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อต่อยอดอาชีพด้านเกษตรได้อย่างยั่งยืนถัดไปด้วย” รัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าว

ยิ่งไปกว่านี้ ห้องประชุมยังลงความเห็นเห็นด้วย “โครงงานพิจารณาและก็ปฏิบัติงานกรณีเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินถึงแก่เสียชีวิตในเขตปฏิวัติที่ดิน ปีงบประมาณ พุทธศักราช 2567” วงเงิน 22.5 ล้านบาท เพื่อ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ใช้ประโยชน์จ่ายเพื่อเร่งรัดแล้วก็ติดตามให้ผู้สืบสกุลเกษตรกรในเขตแก้ไขที่ดินที่ถึงแก่ชีวิตมาแจ้งขอรับสิทธิการจัดที่ดินแทนที่ (รับมรดก) ซึ่งยังไม่มาปรากฏตัวอีก ปริมาณ 171,434 ราย ให้เสร็จด้านในวันที่ 15 ก.ค. 2567 ตามความเห็น คปก. ครั้งที่ 3/2566 ช่วงวันที่ 27 เดือนมิถุนายน 2566 ที่เห็นด้วยให้ขยายระยเวลาออกไปอีก 1 ปี นับจากวันที่ 16 เดือนกรกฎาคม 2566

และก็ลงความเห็นเห็นด้วย “โครงงานมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรลูกหนี้เงินกู้ยืมกองทุนการปรับปรุงที่ดินเพื่อทำการเกษตรตามแผนการรัฐบาล ช่วงเวลา 3 ปี” ตามกฎเกณฑ์ คปก. เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ กระบวนการ และก็ข้อจำกัด การให้กู้เงินกองทุนการปรับปรุงที่ดินเพื่อทำการเกษตรแก่เกษตรกรรวมทั้งสถาบันเกษตรกรในเขตเปลี่ยนแปลงที่ดิน พุทธศักราช 2554 โดยมีหลักเกณฑ์แล้วก็ข้อตกลงดังต่อไปนี้ 1) เงินต้นติดหนี้ติดสินหลงเหลืออยู่ทุกคำสัญญารวมกันในวันที่ 30 ก.ย. 2566 ไม่เกิน 300,000 บาท 2) สถานะเป็นลูกหนี้ธรรมดา 3) สามารถขอผ่อนผันการจ่ายเงินต้นรายงวดรวมทั้งละเว้นดอกเงินกู้ยืมของเงินรายงวดที่ถึงกำหนดจ่าย โดยช่วงแรกจัดการ 1 ปี เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2566 ถึงวันที่ 31 ต.ค. 2567ภายหลังครบระยะต้นจะมีการประมวลผลเพื่อจะทำให้เกิดการปรับแต่งและก็ปฏิบัติการระยะ 2 และก็ 3 ถัดไป โดยมีเกษตรกรที่เข้าข้อตกลงแผนการนี้ ปริมาณ 17,806 ราย คิดฯลฯเงินบ้านพักจ่ายและชำระหนี้รวม 630 ล้านบาท รวมทั้งเป็นดอกที่เว้นรวมปีละ 25.2 ล้านบาท ดังนี้เกษตรกรที่เข้าข้อตกลงสามารถยื่นสมัครสมาชิกร่วมแผนการถึงที่เหมาะ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จังหวัดทุกจังหวัดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป