ฮุนไดยกทัพขบวนโมเดลล่าสุด Hyundai IONIQ 5 รถยนต์ไฟฟ้าจากเกาหลีใต้ ที่มีความโดดเด่นด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร กับสมรรถนะการขับขี่ไม่แพ้เจ้าตลาด ฮุนไดยกทัพขบวนโมเดลล่าสุด แต่จะคุ้มค่ากับงบประมาณเริ่มต้น 1.699 ล้านบาทหรือไม่นั้นมาอ่านต่อที่ด่านล่างได้เลยค่ะ
ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนแทบจะครองตลาดเมืองไทยไปเรียบร้อยแล้วนั้น ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย (HMT) ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทแม่จากเกาหลีใต้ ก็ได้ส่ง IONIQ 5 มาชิมลางลูกค้าชาวไทย ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่ง EV สัญชาติยุโรปและญี่ปุ่น ด้วยระดับราคา 1.699 – 2.399 ล้านบาท
ซึ่งถือว่าสูงเอาการสำหรับการตีตลาดแมส (Mass) แต่ก็เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่กำลังเตรียมควักกระเป๋าจับจองเป็นเจ้าของ ด้วยรูปทรงที่ดูแปลกตาไม่ซ้ำใคร บวกกับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Hyundai ที่มีชื่อเสียงระดับโลกไม่แพ้ค่ายญี่ปุ่น ข่าวยานยนต์
Hyundai IONIQ 5 2023-2024 IONIQ 5 2023-2024 ราคาเท่าไร ?
- Premium ราคา 1,699,000 บาท
- Exclusive ราคา 1,899,000 บาท
- First Edition ราคา 2,399,000 บาท
IONIQ 5 สมบูรณ์แบบด้วยระบบวิศวกรรมและฟีเจอร์อัจฉริยะอันล้ำสมัย
รถยนตร์ IONIQ 5 มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet พลังงานจากแบตเตอรี่ Lithium-Ion ติดตั้งระบบชาร์จเร็ว 350 kW Ultra-fast Charging สามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ภายใน 17 นาทีเท่านั้น มอบความสะดวกสบายได้มากกว่ารถไฟฟ้าแบรนด์อื่น ๆ พร้อมฟีเจอร์ไฮเทคครบครันทั้ง ระบบเครื่องเสียงชั้นนำระดับโลกจาก BOSE และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Hyundai SmartSense ท้งยังพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยสองทางเลือก
- แบตเตอรี่แรงดันสูงสุด 58 กิโลวัตต์-ชั่วโมง กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 384 กม. ตามมาตรฐาน WLTP
- แบตเตอรี่แรงดันสูงสุด 72.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง กำลังสูงสุด 217 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 481 กม. ตามมาตรฐาน WLTP
รูปลักษณ์ภายนอก IONIQ 5 2023-2024
IONIQ 5 รถยนต์ไฟฟ้าอีวี 100% ชูคอนเซ็ปต์การผสมผสานดีไซน์ยานยนต์คลาสสิกอย่าง Hyundai Pony เข้ากับ Parametric Pixels Design ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมเส้นสายที่สะอาดตาและเฉียบคม เน้นเส้นเหลี่ยมสันสร้างรูปลักษณ์ที่เพรียวบาง นับเป็นการผสานความล้ำสมัยเข้ากับความคลาสสิกอย่างลงตัว
ด้านหน้ารถออกแบบเป็นรูปตัว V กระจังหน้าทรงปิดทึบ ฝากระโปรงหน้าแบบ Clamshell Bonnet มือเปิดประตูด้านข้างแบบซ่อนเก็บได้ในตัว ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือการออกแบบของ จิออเกตโต จูเจียโร่ (Giorgetto Giugiaro) นักออกแบบชื่อดังชาวอิตาลี ซึ่งกลับมาร่วมมือกับฮุนไดอีกครั้ง เพื่อปลุกตำนานอันโด่งดังให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในวันนี้
ระบบความปลอดภัย Hyundai SmartSense ประกอบด้วย
- ระบบ Smart Cruise Control with Stop and Go
- ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ FCA
- ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก FCA-JT
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LFA
- ระบบช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ RCCA
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา BCA
- ระบบป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง SEA
- ระบบกล้องมองภาพจุดอับสายตา BVM
- กล้องมองรอบทิศทาง Surround View Monitor
- ระบบช่วยเตือนอากาศเหนื่อยล้า DAW
สรุปแล้วเป็นรถ EV ที่ “คุมค่า” น่าใช้
Hyundai IONIQ 5 ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าคบหามากที่สุดรุ่นหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาในด้านงานออกแบบ อุปกรณ์มาตรฐานที่ให้มา รวมถึงคุณภาพของวัสดุและอินเตอร์เฟสต่างๆ ที่ค่อนข้างลงตัวมากกว่ารถจีนหลายยี่ห้อ ขณะที่บริการหลังการขายก็เชื่อว่าน่าจะทำได้ดีไม่แพ้กัน อันเป็นผลจากการที่บริษัทเข้ามาลุยดำเนินกิจการด้วยตัวเอง
ส่วนราคาจำหน่ายต้องยอมรับว่าค่อนข้างสูงกว่าที่คาดไปสักเล็กน้อย เพราะแม้ว่ารุ่น Premium จะมีราคาเริ่มต้นที่ 1.699 ล้านบาท แต่ตัวจบจริงๆ ทั้งในด้านสมรรถนะและระยะทางขับขี่คงต้องเล่นรุ่น Exclusive ที่มีราคาจำหน่าย 1.899 ล้านบาท ส่วนรุ่น First Edition ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน
เพราะราคาพุ่งขึ้นไปถึง 2.399 ล้านบาท แม้ว่าราคาทั้งหมดจะสูงกว่าแบรนด์อีวีสัญชาติจีน แต่ก็แลกมาด้วย “คุณภาพ” ตามฉบับแบรนด์เก่าแก่ที่พัฒนารถยนต์มาอย่างยาวนาน ก็ขึ้นอยู่กับคุณผู้อ่านแล้วค่ะว่ามองหาอะไรจากรถยนต์สักคัน
พบคำแนะนำทางการเงินสุดพิเศษและก็สิทธิประโยชน์อื่นๆเช่น ฟรีค่าแรงงานเช็คระยะครั้งที่ 1-10 (นาน 10 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร) ค้ำประกันแบตเตอรี่กระแสไฟฟ้าแรงกดดันสูง (High Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ค้ำประกันตัวรถยนต์ (Warranty) 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
สิทธิประโยชน์รับบริการ V2V ปริมาณ 2 ครั้งต่อปี ช่วงเวลา 5 ปี (ภายในกรุงเทพมหานคร) บริการยก/ลากไม่จำกัดปริมาณครั้งและระยะทาง ในช่วงเวลา 5 ปี ฟรีโฮมชาร์จเจอร์พร้อมค่าจ้างจัดตั้ง และก็ค้ำประกันการติดตั้ง 1 ปี