กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนสภาวะ “เอลนีโญกําลังอ่อน” กำลังปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้อุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติทั่วทุกภาค โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก คาดการณ์ว่าสภาวะนี้จะคงอยู่จนถึงช่วงปลายปี 2567
ประเทศไทยอยู่ในสภาวะเอลนีโญกําลังอ่อน หมายความว่า อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรยังคงสูงกว่าค่าปกติ ประมาณ 0.5 – 1.0 องศาเซลเซียส ส่งผลต่อสภาพอากาศในประเทศไทย ดังนี้
- อุณหภูมิ: มีแนวโน้มสูงกว่าค่าปกติ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง
- ปริมาณฝน: ใกล้เคียงค่าปกติ แต่บางพื้นที่อาจมีฝนน้อยกว่าค่าปกติเล็กน้อย
คาดการณ์
- เอลนีโญกําลังอ่อน: คาดการณ์ว่าจะอ่อนกำลังลงและเข้าสู่สภาวะเป็นกลางในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2567
- ลานีญา: มีความน่าจะเป็นร้อยละ 60 ที่จะเข้าสู่สภาวะลานีญา ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 2567
ตามการคาดการณ์ ลีลาการเต้นรำของระบบบรรยากาศมหาสมุทรแปซิฟิก หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ปรากฏการณ์เอนโซ” กำลังจะเปลี่ยนบทบาทจาก “เอลนีโญ” สู่ “ลานีญา” ในเร็วๆ นี้ คาดการณ์ว่า เอลนีโญที่กำลังอ่อนแรงอยู่ในปัจจุบัน จะสิ้นสุดลงและเปลี่ยนผ่านสู่สภาวะเป็นกลางในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2567
อุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่ผิดปกติ สัญญาณเตือนภัยจากใต้ท้องมหาสมุทร
อุณหภูมิผิวน้ำทะเล (SST) เปรียบเสมือนกระจกสะท้อนสภาพสุขภาพของมหาสมุทร การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแม้เพียงเล็กน้อย ย่อมส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลโดยรวม
ในปัจจุบัน SST บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตร กำลังเผชิญกับภาวะอุณหภูมิที่ผิดปกติ โดยเฉลี่ยสูงกว่าค่าปกติประมาณ (-0.2)-0.9 องศาเซลเซียส สถิติที่น่าตกใจนี้ บ่งบอกถึงสัญญาณเตือนภัยจากใต้ท้องมหาสมุทร
ภาวะ SST ที่ผิดปกติ ไม่ได้เกิดขึ้นแบบสุ่ม แต่มีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ ประการสำคัญคือ ภาวะโลกร้อน ก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ ดั่งผ้าห่มหนาที่กักเก็บความร้อน ส่งผลให้อุณหภูมิมหาสมุทรค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ ปรากฏการณ์ เอลนีโญ (El Niño) ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2566 ก็มีส่วนผลักดันให้อุณหภูมิ SST ในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตร พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ติดตาม ข่าวสิ่งแวดล้อม ได้ที่นี่