บรรดาหัวหน้าขั้นสูงของจีนประกาศแผนกำหนดจุดหมายการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจในปีนี้ที่ระดับ 5% เพื่อรักษาเสถียรภาพทางด้านสังคมท่ามกลางการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งความความเชื่อมั่นและมั่นใจที่ลดลงของนักลงทุนและก็ผู้บริโภค
นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เฉียง นำเสนอรายงานต่อที่ประชุมใหญ่ประจำปีของสภาประชาชนจีนครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยระบุถึงแผนเพิ่มงบประมาณในการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ ขยายกำลังทหารและสนับสนุนเศรษฐกิจ ตลอดจนเป้าหมายอื่น ๆ แต่ไม่รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังที่คาดการณ์ไว้
นายกฯ หลี่กล่าวว่า จีนกำลังเผชิญทั้งความท้าทาย ความเสี่ยงและโอกาสใหม่ ๆ แต่สภาพการณ์ในด้านบวกยังคงมีมากกว่าด้านลบ พร้อมยืนยันว่าจะใช้นโยบายการคลังเชิงรุกแต่จะใช้นโยบายการเงินอย่างระมัดระวังต่อไป ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายเศรษฐกิจในตอนนี้
“รากฐานของการฟื้นฟูเศรษฐกิจจีนในระยะยาวยังคงไม่มั่นคง ความต้องการบริโภคยังไม่เพียงพอ การผลิตมากเกินไปในบางอุตสาหกรรม ความคาดหวังของสังคมยังอ่อนแอ และยังมีความเสี่ยงและอันตรายที่มองไม่เห็นอยู่มาก” นายกฯ หลี่ กล่าวต่อที่ประชุม ณ หอประชุมใหญ่ประชาชนจีนในกรุงปักกิ่ง
นายกฯ หลี่ เผยแผนกระตุ้นการเจริญเติบโตด้วยการออกพันธบัตรระยะยาวในช่วงหลายปีข้างหน้า เริ่มด้วย 1 ล้านล้านหยวนในปีนี้ และกล่าวว่า รัฐบาลจะใช้โมเดลใหม่สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการให้เงินอุดหนุนในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อบรรเทาวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนด้วย ข่าวการเงิน
รัฐบาลจีนได้เปิดเผยร่างงบประมาณฉบับใหม่
ซึ่งรวมถึงงบประมาณด้านกลาโหมมูลค่า 1.67 ล้านล้านหยวน (231,000 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 7.2% จากปีที่แล้ว และสะท้อนให้เห็นว่า จีนให้ความสำคัญกับความมั่นคงพร้อมไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ
หลี่กล่าวว่า “การทำตามเป้าหมาย (การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 5%) นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย” และไม่เพียงแต่การขยายตัวของเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเป้าหมายอื่น ๆ เช่น การสร้างงาน 12 ล้านตำแหน่ง และการทำให้จีนเป็นประเทศที่พึ่งพาพลังงานสะอาดมากขึ้น
รัฐบาลจีนยังมีแผนกระตุ้นการจ้างงานเพื่อบรรเทาความกังวลของประชาชนว่าจะไม่มีงานทำ โดยเฉพาะบรรดาคนหนุ่มสาวที่เพิ่งจบการศึกษา รวมถึงนโยบายประกันการว่างงานและสวัสดิการทางสังคมต่าง ๆ ตลอดจนการให้เงินกู้หรือเงินอุดหนุนแก่บริษัทที่มีการจ้างงานใหม่ เป็นต้น
เมื่อปีที่แล้ว เศรษฐกิจจีนเติบโต 5.2% จากระดับ 3% เมื่อปี 2022 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่า การจะรักษาระดับการเติบโตที่ 5% ในปีนี้อาจเป็นเรื่องยากเมื่อดูจากปัจจัยต่าง ๆ
ลูอิส ลู นักวิเคราะห์แห่ง Oxford Economics ประเมินว่า เศรษฐกิจจีนน่าจะขยายตัวที่ระดับเกือบ 4%
การประชุมใหญ่ประจำปีของสภาประชาชนจีนจะมีขึ้นต่อเนื่องราวหนึ่งสัปดาห์ และถือเป็นการประชุมทางการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดของจีนในแต่ละปี ถือเป็นเวทีที่ผู้นำจีนใช้แสดงความสำเร็จของพรรคคอมมิวนิสต์ และการประกาศแผนแห่งชาติต่าง ๆ